‘ยูเอ็น’คุยชุมชน’ป้อมมหากาฬ’ ชาวบ้านขอช่วยผลักดันรัฐบาลไทยดำเนินการ3ข้อเสนอ

Katia Chirizzi เจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาค สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน องค์การสหประชาชาติ และคณะ (United Nation office of High Commissioner for Human Rights for South East Asia) ขณะพูดคุยกับชาวบ้านที่ชุมชนป้อมมหากาฬ

สืบเนื่องกรณีไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ซึ่ง กทม. ได้รื้อถอนบ้านเรือนจำนวน 16 หลัง โดยมีครัวเรือนที่ยังไม่ยินยอมให้รื้อถอนอีกกว่า 40 หลังคาเรือน โดยล่าสุดชุมชนและนักวิชาการอยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการพหุภาคี โดยขอให้รัฐเป็นตัวกลางในการหาทางออกนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 กันยายน น.ส.อินทิรา วิทยสมบูรณ์ นักกิจกรรมเพื่อสังคมที่เคลื่อนไหวร่วมกับชุมชนป้อมมหากาฬ กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ก.ย. เวลา 13.00 น. น.ส. Katia Chirizzi เจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาค สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ และคณะ (United Nation office of High Commissioner for Human Rights for South East Asia) ได้เดินทางมายังชุมชนเพื่อรับฟังปัญหาของชาวบ้าน เนื่องจากเคยศึกษาปัญหาของชุมชนที่ถูกไล่รื้อในประเทศเกาหลี เมื่อทราบถึงการเคลื่อนไหวและข้อเสนอของชุมชนที่มีต่อภาครัฐจึงรู้สึกสนใจและติดต่อมายังชุมชนเพื่อเข้าพูดคุย โดยใช้เวลาราว 1 ชม. จึงเดินทางกลับ

“ชุมชนได้เล่าให้ฟังถึงความเป็นมา จุดเริ่มต้น ประเด็นปัญหา และการต่อสู้ตลอด 24 ปีที่ผ่านมา รวมถึงข้อเสนอของชุมชน ทั้ง 5 ข้อที่มีต่อภาครัฐ เช่น จะพัฒนาเป็นชุมชนตัวอย่างโดยขออยู่ร่วมกับสวนสาธารณะ จะมีการจัดตั้งเวรยามดูแลความปลอดภัย จะมีการจ่ายค่าเช่าที่ดินให้ กทม. จะพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และได้เล่าถึงสถานการณ์ปัจจุบันซึ่ง กทม.ได้เข้ารื้อถอนบ้านไปแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งทางชุมชนขอให้สหประชาชาติช่วยผลักดันให้รัฐบาลไทยมีการดำเนินการ 3 ข้อตามที่เคยเสนอภาครัฐไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้แก่ 1.ขอให้ระงับกระบวนการการไล่รื้อไว้ก่อน 2.ขอให้ กทม.กระทำตามข้อตกลงจากการเจรจาเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่าจะไม่มีการรื้อบ้านที่ไม่สมัครใจ 3.ขอให้ผลักดันการจัดตั้งคณะกรรมการพหุภาคี โดยภาครัฐเป็นสื่อกลางในการร่วมแก้ไขปัญหา” น.ส.อินทิรากล่าว

ยูเอ็น01

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image