ตัวเเทน”ร้านนวด-สปา”ยื่นฟ้องศาลแพ่งเอาผิดหน่วยงานรัฐ ฐานละเมิด เรียก 200 ล้าน

ตัวเเทนกลุ่มร้านนวดสปากว่า 150คน ยื่นฟ้องศาลแพ่งเอาผิดหน่วยงานรัฐ ฐานละเมิด ขอดำเนินคดีเเบบกลุ่มเรียกค่าเสียหาย 200 ล้าน ศาลนัดไต่สวน 21 ก.ย. 

เมื่อวันที่17 สิงหาคม ที่ศาลแพ่ง .รัชดาภิเษก ..ศิริกัญญา ตันสกุล..บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายสุเทพ อู่อ้น, นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ..บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และทีมทนาย ร่วมเป็นตัวกลางนำ นายพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย และน..อักษิกา จันทรวินิจ หรือ เพรียว ตัวแทนกลุ่มธุรกิจร้านนวดสปา เดินทางเข้ายื่นฟ้องรัฐบาลร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวด และสปาในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดในเขตพื้นที่สีแดงเข้ม เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายให้ผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อน จากการถูกสั่งปิดสถานประกอบการร้านนวดตามคำสั่งของรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการบริหารจัดการโควิด ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยไปเรียกร้องมาหลายหน่วยงานแล้ว

โดยนายพิทักษ์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดได้รับผลกระทบจากนโยบายสั่งปิดกิจการร้านนวดตั้งแต่ปี 2563 และถูกสั่งปิดต่อเนื่องทุกครั้งของการล็อกดาวน์ ซึ่งร้านนวดไม่เคยเป็นสถานที่เสี่ยง และไม่เคยมีผู้ติดเชื้อเกิดขึ้น แต่รัฐก็ยังสั่งปิดร้านนวดทุกครั้ง จนผู้ประกอบการบางรายต้องปิดกิจการ จนถึงขณะนี้ยังไม่รับการเยียวยาจากภาครัฐเลยสักครั้ง และในวันนี้กลุ่มผู้ประกอบการได้เรียกร้องค่าเสียหายจากภาครัฐเป็นเงินจำนวน 200 ล้านบาท

ด้านน..ศิริกัญญา ในฐานะเป็นตัวกลางยื่นฟ้องให้กลุ่มผู้ประกอบการกล่าวว่า การฟ้องในครั้งนี้เป็นการฟ้องแพ่งแบบรวมกลุ่มหรือ Class Action ครั้งแรก ซึ่งอยากให้คดีนี้เป็นคดีแรก และเป็นคดีในประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลจะตัองรับผิดชอบต่อชีวิตของประชาชน และความเสียหายที่เกิดขึ้นของผู้ประกอบการ ทั้ง ที่เป็นมาตรการที่รัฐบาลสั่ง แต่ไม่มีมาตรการที่จะมารองรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ผ่านมากว่าหนึ่งปีแล้วที่ผู้ประกอบการร้านนวดเหล่านี้ยังไม่เคยได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ แต่ถ้าหากจะมาเยียวยาตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว เพราะไม่ได้สัดส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้น เราคิดว่ามันสายเกินไปแล้ว ต้องมาพึ่งศาลว่าได้กระทำการละเมิดกับประชาชนในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ที่ผิดพลาดขนาดนี้ ก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับประชาชน ซึ่งการฟ้องร้องในวันนี้เป็นคดีแรกของการฟ้องรวมกลุ่มของกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวด และจะขยายไปยังกลุ่มผู้ประกอบการอื่น อีก เช่น ร้านอาหาร และผับ บาร์

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำฟ้อง ระบุว่านางอักษิกา จันทรวินิจตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจนวดเพื่อสุขภาพและสปาขนาดกลางและขนาดเล็ก เเละ ..จารวี ติสันโต เจ้าของร้านจารวี นวดแผนไทย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กระทรวงการคลัง , กระทรวงสาธารณสุข,กระทรวงมหาดไทย,กรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-4ในความผิดฐานละเมิดเรียกค่าเสียหาย 10,796,928 บาท

โดยจำเลยที่1-4เป็นนิติบุคคลมีอำนาจหน้าที่แตกต่างกันไปตามแต่ละหน่วยงานและเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีอำนาจหน้าที่ร่วมรับผิดชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทน ตามพรบ.ความรับผิดทางละเมิดพของเจ้าหน้าที่ ..2539 วรรค5

Advertisement

คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการ ศบค. และประธานกรรมการวัคซีน

มีอำนาจแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ และได้ประกาศกฎหมายหลายฉบับเเต่พล..ประยุทธ์ เเละนายอนุทิน ชาญวีรกูร รมว.สาธารณสุข ดำเนินนโยบายผิดพลาดทำให้ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤติสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจ มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก เกิดจากการบริหารจัดการการแพทยระบาดไวรัสโควิดยังล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และนายกรัฐมนตรียังได้สั่งปิดสถานที่ ซึ่งรวมถึงสถานบริการนวดเพื่อสุขภาพ การกระทำของนายกรัฐมนตรี,นายอนุทินชาญ, ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆและผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร ที่ประกาศปิดสถานที่ดังกล่าว ซึ่งมีสาเหตุมาจากความประมาทเลินเล่อ ดำเนินนโยบายผิดพลาดล้มเหลว จึงต้องรับผิดชอบความเสียหายต่อโจทก์ทั้งสอง

โดยจำเลยทั้งสี่ต้องร่วมกันชดใช้แก่โจทก์ที่1เป็นเงิน 7,199,262 บาทชดใช้โจทก์ที่2 เป็นเงิน 3,597,666 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ5

โดยโจทก์ทั้งสองยังได้ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีเเบบกลุ่ม ได้บรรยายฟ้องโดยแสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะที่เหมือนกันกับลักษณะของสมาชิกกลุ่มที่ชัดเจน เพียงพอเพื่อให้รู้ได้ว่าโจทก์ทั้งสองและสมาชิกกลุ่มเป็นกลุ่มบุคคลที่ประกอบกิจการร้านนวดเพื่อสุขภาพที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำละเมิดของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, ผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้นมีสมาชิกกลุ่มจำนวนมากกว่า150 คนซึ่งถือว่าการฟ้องคดีนี้มีผู้เสียหายเข้ามาเป็นจำนวนมากซึ่งหากดำเนินคดีอย่างคดีสามัญแล้วจะทำให้เกิดความยุ่งยากและไม่สะดวกเพราะจะต้องสืบพยานบุคคลเป็นจำนวนมากหรืออาจต้องแยกฟ้องเป็นคดีใหม่อีกจำนวนหลายคดี เเละการดำเนินคดีแบบกลุ่มจะเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพมากกว่าการดำเนินคดีอย่างคดีสามัญเนื่องจากคดีนี้เป็นการฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงอาจต้องออกคำสั่งเรียกพยานเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของรัฐหรือต้องออกหมายเรียกพยานบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือนักวิชาการมาเป็นพยานในคดีซึ่งหากให้ประชาชนแต่ละบุคคลแยกกันไปฟ้องร้องอาจไม่สามารถต่อสู้คดีกับหน่วยงานของรัฐได้ดีเท่ากับการรวมกลุ่มกัน

โจทก์ทั้งสองยังยื่นคำร้องว่า เนื่องด้วยในปัจจุบันอยู่ในสถานการณ์การระบาดรุนแรงของโรคโควิด 19 การเดินทางมาดำเนินกระบวนพิจารณาคดีที่ศาลอาจเสี่ยงให้เกิดการติดเชื้อของคู่ความและบุคลากรของศาลได้ด้วย จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีนี้โดยไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่มและนัดชี้สองสถานหรือสืบพยานโจทก์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทางเว็บไซต์ Google Meet เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด 19 ของคู่ความและบุคลากรของศาลขอศาลได้โปรดอนุญาต

ศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ3782/2564ได้พิจารณาคำร้องและคำฟ้องดังกล่าวแล้วมีคำสั่งให้นัดไต่สวนคำร้องขอให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มวันที่ 21 ก.ย.64  เวลา 9.00 น.ตามวันและเวลาที่โจทก์ทั้งสองขอ โดยโจทก์ทั้งสองจะดำเนินกระบวนพิจารณาทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรม Google Meet จากสำนักงานของทนายโจทก์ทั้งสอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image