3 ล้านคน เตรียมเฮได้บูสต์ ‘เข็ม3’ ปลายกันยายน อภ.เซ็นสัญญาซื้อเอทีเค ‘เล่อปู๋’ วันนี้

3 ล้านคนเตรียมเฮ ได้บูสต์ ‘เข็ม3’ ปลายกันยายน อภ.เซ็นสัญญาซื้อเอทีเค ‘เล่อปู๋’ วันนี้

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้สถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 มีการชะลอตัว ล่าสุดทางศบค.เห็นชอบการผ่อนคลายกิจกรรมบางส่วน เช่น สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้าน สำหรับห้องปิด มีเครื่องปรับอากาศก็อนุญาตนั่งได้ร้อยละ 50 ของความจุพื้นที่ สำหรับร้านเปิดโล่งก็อนุญาตที่ร้อยละ 75 ซึ่งยังไม่มีการปรับพื้นที่สี ยังคงยึดใน 29 จังหวัด ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

นพ.โอภาสกล่าวว่า สำหรับมาตรการอื่นๆ ยังคงต้องเข้มข้นต่อไป โดยเฉพาะการทำงานจากที่บ้าน ก็ขอให้ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องอีกสัก 1 เดือน เพื่อพิจารณาตัวเลขผู้ติดเชื้อว่าลดลงไปในระดับใด หลังจากนั้น จึงจะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการอื่นเพิ่มเติม และที่สำคัญคือ ทุกคนต้องปฏิบัติมาตรการ Universal Prevention for COVID-19 ด้วยการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด “คิดเสมอว่า คนใกล้ตัวอาจเป็นคนติดเชื้อและเราเองก็อาจเป็นคนแพร่เชื้อได้ ดังนั้น ต้องเข้มงวดมาตรการ DMHTT ต่อเนื่อง และเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

นอกจากนี้ มาตรการองค์กรต่างๆ ก็จะต้องเพิ่มในเรื่องการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจเร็ว แอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค องค์กรต่างๆ ที่เริ่มผ่อนคลาย ต้องดูเรื่องสถานที่ ให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก โดยเฉพาะร้านอาหารที่ติดแอร์ รวมถึงพนักงานต้องฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเอทีเคอย่างสม่ำเสมอ ช่วงแรกนี้ยังไม่บังคับ เพราะการกระจายเอทีเคยังไม่ทั่วถึง แต่ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เชื่อว่าหลายฝ่าย ไม่ว่าจะสมาคมภัตตาคารไทย ร้านค้า ก็ยินดีร่วม และเดือนหน้าจะมีเอทีเคมากขึ้น โดยสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานการดำรงชีวิของคนไทยต่อไป” นพ.โอภาสกล่าว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า สำหรับวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ของประชาชนทั่วไปนั้น ล่าสุดทางอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด-19 มีมติให้เริ่มฉีดช่วงปลายเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 จะเป็นวัคซีนชนิดใดขึ้นอยู่กับสถานการณ์วัคซีนที่มีอยู่ขณะนั้น ส่วนผู้จะต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 มีประมาณ 3 ล้านคนทั่วประเทศ นอกจากนี้ที่ประชุมอนุกรรมการติดตามกำกับการทำงาน ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีการเน้นย้ำการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ควบคุมแคมป์ การเฝ้าระวังการจัดทีมปฏิบัติการเชิงรุก หรือซีซีอาร์ ทีม (CCRT Team) ให้เกิดความต่อเนื่องด้วย

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเข็มที่ 3 เบื้องต้นจะเป็นแอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงที่วัคซีนทั้งสองยี่ห้อมีปริมาณมากพอ ทั้งนี้ ใน 3 ล้านคนของผู้จะได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มานานไม่ต่ำกว่า 3 เดือนแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการจัดซื้อชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท หรือ เอทีเค (ATK) จำนวน 8.5 ล้านชุด วงเงิน 1,014 ล้านบาท ขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดซื้อแทนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อเร่งนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยตัวเอง แต่การลงนามสัญญาจัดซื้อล่าช้ากว่ากำหนด บริษัทเอกชนชนะการประมูลราคาต่ำสุดชุดละ 70 บาท ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า

Advertisement

ล่าสุดเป็นที่ชัดเจนว่าสำหรับพีธีลงนามสัญญาจัดซื้อเอทีเค 8.5 ล้านชุด อย่างเป็นทางการระหว่าง อภ. กับ บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด ผู้ชนะการประมูลการจัดหาและนำเข้าชุดผลิตภัณฑ์ทดสอบโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen self-test Test Kits : ATK) ภายใต้ชื่อ “SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test” จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2564 เวลา 15.00 น. ณ องค์การเภสัชกรรม

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า การลงนามจัดซื้อเอทีเคจำนวน 8.5 ล้านชุด ดังกล่าว ยังเป็นการดำเนินการท่ามกลางกระแสคัดค้านของชมรมแพทย์ชนบท ล่าสุดได้ประกาศเดินหน้าติดตามตรวจสอบผลการใช้ชุดตรวจเอทีเคที่ชนะการประมูล คือ ยี่ห้อเล่อปู๋ (LEPU) ทันทีที่มีการส่งมอบชุดตรวจเอทีเคนี้ไปถึงมือประชาชน ขณะนี้ได้มีการตั้งทีมตรวจสอบความแม่นยำของเอทีเคที่ อภ.จัดซื้อ มี นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ โรงพยาบาล (รพ.) น่าน หนึ่งในนักระบาดวิทยามือดีของประเทศไทย เป็นหัวหน้าทีมวิจัย และมี ผศ.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นรองหัวหน้าทีมวิจัยฯ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image