อัยการเผย ‘โจ้’ ให้การภาคเสธ ชี้พฤติการณ์คลิปคลุมถุงไม่บ่งบอกไบโพลาร์ คาดไม่เกิน 30 วันส่งฟ้องศาล

อัยการภาค 6 เข้าสอบสวน ผกก.โจ้ พร้อมพวก เผยผู้ต้องหาให้การภาคเสธ แต่พนักงานสอบสวนจะเชื่อตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน สามารถรวบรวมสำนวนคดีส่งฟ้องต่อศาลให้พิจารณาได้

เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่เรือนจำกลางพิษณุโลก ต.สมอแข อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.ภ.6 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.ชน อินพิทักษ์ เลขานุการอัยการภาค 6 พร้อมด้วยทนายความฝั่งผู้ต้องหา ร่วมกันสอบสวน พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกรวม 7 นาย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสเป็นไปตาม พ.ร.บ.การสอบสวน

นายสมพงษ์กล่าวว่า ในกรณีที่มีการชันสูตรพลิกศพ หรือตายระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ตามหลักต้องมีการสอบสวนโดยพนักงานอัยการร่วมกับพนักงานสอบสวน เนื่องจากสำนวนคดีที่แจ้งความไว้เป็นการกระทำโดยพนักงานของเจ้าพนักงานสอบสวนเพียงฝ่ายเดียว พนักงานอัยการยังไม่มีส่วนร่วมด้วย ดังนั้น ตามกฎหมายอัยการต้องมาร่วมสอบสวนให้ครบตามกระบวนการ

นายสมพงษ์กล่าวว่า การสอบสวน ผกก.โจ้ เราได้แจ้งข้อกล่าวหาซึ่งก็เป็นสิทธิตามกฎหมายว่าเขากระทำความผิดอะไรบ้าง แล้วเขาจะให้การอย่างไร โดยการกระทำจะมีพนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน ทนายความของผู้ต้องหา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนคนอื่น การสอบสวนตัวของ ผกก.โจ้ สอบสวนเสร็จแล้ว

“วันนี้ยังให้การภาคเสธ กระทำจริง แต่เขาอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาฆ่า อ้างว่าต้องการเค้นข้อมูล ยืนยันว่าการสอบสวนในครั้งนี้ไม่ใช่การเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เมื่อเราแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนา เล็งเห็นผลโดยทารุณโหดร้ายและทนทุกข์ทรมาน หลักการตามกฎหมายยังอยู่เหมือนเดิม ส่วนตัวผู้ต้องหามีสิทธิของเขาว่าจะให้การยังไงก็ได้ เป็นสิทธิของผู้ต้องหา

Advertisement

“ในบทบาทของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ เราจะดูว่าพยานหลักฐานของเราที่ปรากฏมีลักษณะของการเจตนาที่จะฆ่าจริงหรือไม่ มีลักษณะทารุณโหดร้ายจริงหรือไม่ เราดูเจตนา กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา กรรมก็คือการกระทำของเขาในขณะที่ทำว่าเขามีเจตนาหรือไม่ เขาว่าเขาไม่มีเจตนา แต่ทำไมพฤติการณ์ของเขาที่ทำตามหลักฐานที่ปรากฏ ทำไมใช้ถุงคลุมศีรษะถึง 6 ถุง มีการขันชะเนาะหลายรอบ ซึ่งการขันชะเนาะนั้นตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่มีพบว่ามีร่องรอยช้ำแดง แสดงว่าการขันรอบคอมีลักษณะการใช้ความรุนแรง

“ยิ่งกดแรงเท่าไหร่ก็เหมือนการบีบคอ ไม่สามารถหายใจได้ การกดคอลงกับพื้นยิ่งทำให้ไม่มีอากาศ มีการใส่กุญแจมืออีก ดังนั้น สิ่งที่เราเจอก็คือเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งผู้ถูกกระทำไม่ได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงสมองนานถึง 4-7 นาที มีผลทำให้สมองตายตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์” นายสมพงษ์กล่าว

Advertisement

รองอธิบดีอัยการภาค 6 กล่าวอีกว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาจะกล่าวอ้างเช่นไร จะปฏิเสธอย่างไร แต่เราเชื่อในหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เราเชื่อในหลักฐานของแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีหน้าที่โดยตรง เราพบแพทย์มีการผ่าตัดสมอง มีหลักฐานต่างๆ เราพบร่องรอยการขาดออกซิเจนนานๆ มีผลต่อสมองอย่างไร เส้นเลือดบวมอย่างไร เรามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เรากำลังสู้กันด้วยหลักของนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่คำกล่าวอ้างลอยๆ ของผู้ต้องหา

“เรื่องไบโพลาร์ที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างนั้น เราดูจากหลักฐานในการกระทำตามคลิป คนเป็นไบโพลาร์ เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วทำไมไม่เกรี้ยวกราดต่อ แต่ทำไมกลับมีอาการตกใจ ปั๊มหัวใจ สั่งให้ทำลายหลักฐาน ลบคลิปทั้งหมด คนเป็นไบโพลาร์ทำไม่ได้ เพราะลักษณะของ ผกก.โจ้นั้นรู้ผิดชอบชั่วดี มีการให้พาไปโรงพยาบาล พฤติการณ์ตามคลิปไม่แสดงเลยว่าเขามีอาการไบโพลาร์ที่จะนำมาเป็นเหตุลดโทษได้ จากพฤติการณ์แวดล้อมที่กระทำ” รองอธิบดีอัยการภาค 6 กล่าว

รองอธิบดีอัยการภาค 6 กล่าวอีกว่า ขณะนี้กำลังเร่งทำสำนวนการสอบสวนให้เสร็จ ประมาณสัปดาห์หน้า ส่วนสำนวนการสอบสวนชันสูตรพลิกศพต้องนำมาประชุมร่วมกันแล้วนำมาส่งให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อไต่สวน คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน จะสามารถส่งสำนวนต่อศาลให้พิจารณาคดีได้ โดยขณะนี้ได้ทำการตั้งข้อกล่าวหา 3 ข้อกล่าวหาคือ 1.ฆ่าคนตายโดยทรมานโหดร้าย 2.หน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นเหตุแก่ความตาย 3.เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบโดยกฎหมาย

ส่วนในวันนี้ ผกก.โจ้ พร้อมพวกรวม 7 นาย อยู่ในอาการสงบ ไม่มีอาการเครียดเหมือนวันแรกๆ ทุกคนให้ความร่วมมือในการสอบสวนเป็นอย่างดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image