บิ๊กต๊อก-ปลัดยธ.แจง ไทยไม่โอนตัว’นักโทษสวิส’กลับประเทศ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ไม่มีเหตุผลอื่น

เมื่อวันที่ 21 กันยายน นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กล่าวถึงกรณีการโอนตัวนายซาเวียร์ แอนเดร จัสโต ผู้ต้องขังชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่ต้องโทษในความผิดฐานพยายามรีดทรัพย์และพยายามกรรโชกทรัพย์จากบริษัท ปิโตรซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด ว่า กรณีดังกล่าวเป็นการโอนตัวนักโทษตาม พ.ร.บ.การโอนตัวนักโทษ ไม่ใช่การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากนายซาเวียร์เป็นผู้ต้องขังที่ถูกจำคุกในคดีรีดเอาทรัพย์ เมื่อปี 2558 ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศไทย จึงถูกศาลพิพากษาสั่งจำคุกเป็นเวลา 3 ปี จากนั้นได้รับการลดวันต้องโทษตาม พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ 2559 โดยเหลือโทษจำคุก 9 เดือน ทั้งนี้ ระเบียบการขอโอนตัวผู้ต้องขังระหว่างประเทศ ผู้ต้องขังจะต้องเหลือโทษจำคุกในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 1 ปี ซึ่งนายซาเวียร์เหลือโทษเพียง 9 เดือน จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ ดังนั้นก็จะไม่มีการพิจารณาการโอนตัวนายซาเวียร์ไปจำคุกต่อยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์

นายชาญเชาวน์ยังกล่าวด้วยว่า อีกไม่นานนายซาเวียร์ก็จะครบกำหนดโทษ จากนั้นทางกรมราชทัณฑ์จะได้มีการประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้มารับตัวนายซาเวียร์เพื่อผลักดันออกนอกประเทศต่อไป ส่วนที่มีกระแสข่าวนำเอาประเด็นดังกล่าวไปเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการเชื่อมโยงแต่อย่างใด ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนปกติ

“การโอนตัวนักโทษระหว่างประเทศนั้น ถึงแม้แต่ละประเทศจะมีสนธิสัญญาต่อกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ ของประเทศ เช่นประเทศไทยต้องเหลือโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปี หากไม่เข้าหลักเกณฑ์ก็โอนตัวไม่ได้” นายชาญเชาวน์กล่าว

ด้าน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่านายซาเวียร์ไม่เข้าหลักเกณฑ์การโอนตัวนักโทษระหว่างประเทศ ซึ่งตามหลักเกณฑ์ผู้ต้องขังที่จะโอนตัวกลับไปรับโทษต่อยังประเทศของตนเองนั้น ตามหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ผู้ต้องขังจะต้องมีโทษจำคุกเหลือมากกว่า 1 ปี ซึ่งนายซาเวียร์เหลือโทษจำคุกเพียง 9 เดือน ดังนั้น จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์และไม่สามารถโอนตัวกลับไปรับโทษต่อยังประเทศของตัวเองได้

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่ามีการประสานจากทางการมาเลเซีย เพื่อไม่ให้โอนตัวนายซาเวียร์กลับประเทศนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า คนก็นำไปผูกโยงกัน ซึ่งก็แล้วแต่จะคิด ข้อเท็จจริงคือนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้มีการพบกับนายกรัฐมนตรีของไทย แต่ไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว ดังนั้น เราก็ต้องปฏิเสธในข้อเท็จจริงว่ามันไม่เกี่ยวกัน เพราะสาเหตุที่ไม่โอนตัวนายซาเวียร์กลับประเทศนั้น เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์ ไม่ใช่เหตุผลอื่น

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image