อดีตอธิบดีกรมชลฯ ห่วงโครงการ “เจ้าพระยา” แนะตั้งสติ-อ.สถาปัตย์จุฬา เผยเห็นแบบแล้วแทบลมใส่ จี้สจล.ถอนตัว

ปราโมทย์ ไม้กลัด และเผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี

เมื่อวันที่ 21 กย. ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มีการจัดเสวนาหัวข้อ “โครงการทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา 14 กม. สร้างสรรค์หรือทำลาย” โดย สมัชชาแม่น้ำ มีผู้เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก ทั้งประชาชนทั่วไป นักศึกษาจากสถาบันต่างๆ อาทิ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.รังสิต, สถาปนิกชื่อดัง เช่น นางปองขวัญ ลาซุส , กลุ่มผู้ประกอบการ อาทิ นาย กฤษดา สุโกศล แคลปป์ หรือ น้อย วงพรู ผู้บริหารโรงแรมเดอะสยาม ซึ่งตั้งอยู่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงเครือข่ายต่างๆ เช่น เครือข่ายบางปะกง และเครือข่ายท่าจีน เป็นต้น โดยตอนหนึ่ง นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน และอดีตสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นหนึ่งในวิทยากร กล่าวว่า ตนมีความเกี่ยวข้องกับแม่น้ำมากกว่า 50 ปีตั้งแต่สะพานพระรามเจ็ดถึงสุดเขตกรุงเทพฯ โครงการลักษณะนี้ต้องมีกระบวนการคิดและทำให้ตอบโจทย์ได้ แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ เชื่อว่าแม้จะดำเนินต่อไป ก็ขับเคลื่อนยากหรือขับเคลื่อนไม่ได้เลย

“ไม่ได้ค้านนโยบาย แต่ต้องคิดให้ละเอียด ถ้าคุ้มถึงควรทำ และต้องให้สอดคล้องภูมิสังคม ภูมิศาสตร์ สังคม ผู้คน สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมประเพณี ชุมชนมีความสลับซับซ้อน ไม่ใช่ว่าใช้สถาบันการศึกษา 2 แห่งมาทำแผนแม่บทแล้วจะสำเร็จ ทีมงานต้องชัดเจน เท่าที่เห็น ในอนาคตขับเคลื่อนยาก หรือขับเคลื่อนไม่ได้เลย บอกได้คำเดียวว่าไม่สำเร็จ นี่คือความเป็นห่วง ขอให้ชะลอ ตั้งสติ คิดให้รอบคอบทุกมิติ อยากฝากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้ใจเย็นๆ” นายปราโมทย์กล่าว

ด้าน นายเผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตนทราบข่าวโครงการดังกล่าวจากอาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สจล. ว่าอธิการบดี สจล. รับทำงานในนามสถาบัน ในขณะที่อาจารย์ไม่ให้ความร่วมมือ ถามว่าเหตุใดกล้ารับงานระดับชาติ

“การที่สจล.ไปรับงานมา แล้วหน่วยงานย่อยในมหาวิทยาลัยไม่ให้ความร่วมมือ หมายความว่าอย่างไร ควรดูตัวเองว่ามีความสามารถแค่ไหนเข้าใจปัญหาแค่ไหน กล้าหาญชายชัยอะไรที่จะมารับงานระดับชาติ ไม่งั้นคงไม่ต้องไปจ้างบริษัทเอกชนไปร่วมทีม สจล. เป็นนายหน้าจ้างบริษัทเอกชนออกแบบ พอเห็นวิมานพระอินทร์แทบลมใส่ พูดแบบสามัญสำนึก ยังไม่ต้องถึงหลักวิชา แค่นี้ยังคิดไม่ได้ สร้างเขื่อนบดบัง สถาปนิกที่คัดค้านทุกคนมองออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น ให้ด่าสถาบันอื่น ไม่ทำ แต่นี่คือเรื่องเพื่อชาติ ต้องพูดตรงไปตรงมา” นายเผ่ากล่าว และว่า ความโลภทำให้คนคอร์รัปชั่นเดินหน้าหนึ่งก้าวถอยหลังสามก้าว ผลประโยชน์โครงการนี้มหาศาล จะตกถึงใครบ้างไม่ทราบ เมื่อโดนท้วงติง ก็โกรธ อีกทั้งสถาปนิกบางรายหลงตนว่าเก่ง โครงการนี้จะล้มเลิกได้ทันทีเมื่อสจล.ถอนตัว ควรเห็นแก่ลูกศิษย์ที่จะเรียนจบออกไป เริ่มต้นคิดใหม่ แน่จริงเหตุใดจึงไม่ประกวดแบบ อย่าให้สถาบันมัวหมองในยุคสมัยที่ตัวเองเป็นอธิการ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image