ประกาศ 4 พื้นที่ เข้ารอบ “โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ประจำปี 2559

นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า กรมป่าไม้ ร่วมกับ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) จัดประกวดป่าชุมชน ตามโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน”ประจำปี 2559 เพื่อให้ชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของป่าชุมชนและคัดเลือกป่าชุมชนที่มีแผนงาน ระบบ กระบวนการในการอนุรักษ์และพัฒนาป่าอย่างเข้มแข็ง ซึ่งปลายเดือน ก.ย.นี้ จะทราบผลการพิจารณาผู้ชนะเลิศ ระดับประเทศตามโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ประจำปี 2559 ซึ่งจะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และเงินสนับสนุนการอนุรักษ์ป่าชุมชน พร้อมป้ายประกาศเกียรติคุณ ” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว

นางนันทนา บุณยานันต์ ผอ.สำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการดำเนินการคัดเลือกป่าชุมชนทั่วประเทศใช้เวลามากกว่า 3 เดือน และขณะนี้ได้ป่าชุมชนที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ ในระดับภูมิภาคทั้ง 4 แห่ง เป็นที่เรียบร้อย และผู้ชนะเลิศในระดับภูมิภาค มีดังนี้ 1.ป่า ชุมชนบ้านบุ่งกุ่ม จ.เลย มีลักษณะเด่นเรื่องพลวัตในการก่อเกิดของผืนป่า โดยการสร้างเครือข่ายจิตอาสาในชุมชน ที่เริ่มจากความสัมพันธ์ส่วนตัวผ่านความเป็นเครือญาติ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในกลุ่มเล็กๆก่อนขยายไปสู่ระดับชุมชน สร้างแนวร่วมในการดูแลป่า ผ่านกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เช่น กิจกรรมบวชป่าเพื่อแสดงสัญลักษณ์ของการต่อสู้ที่จะอนุรักษ์ป่าชุมชนกิจกรรม ขุดลอกและเลี้ยงผีเจ้าที่ซำอีเลิศเพื่อฟื้นฟูตามความเชื่อดั้งเดิม การใช้สื่อวิทยุท้องถิ่น การดึงนักวิชาการท้องถิ่นจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลยเข้ามาทำการวิจัย เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ในการจัดการป่าของหน่วยงานและชุมชนต่างๆ 2.ป่าชุมชนบ้านผาปังหลวง จ.ลำปาง มีจุดเด่นในเรื่องของการเป็นแหล่งเรียนรู้ความ หลากหลายทางชีวภาพ มีการจัดการเศษวัสดุไผ่จากสถานีตะเกียบในตำบลผาปังและชุมชน พื้นที่ข้างเคียง มาเพิ่มมูลค่าด้วยการทำถ่านอัดแท่ง ให้เกิดเป็นพลังงานทดแทนการใช้ก๊าซหุงต้มและได้นำเยื่อไผ่มาผลิตภาชนะไบโอ เช่น แก้ว ชาม ฯลฯ ผ่านการฆ่าเชื้อราด้วยตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ 3.ป่าชุมชนบ้านอ่างน้ำผุด จ.สุราษฎร์ธานี เป็นป่าต้นน้ำพื้นที่ อ่างน้ำผุดมีธารน้ำจืดผุดขึ้นมาบนผิวดินจำนวนมาก ลำน้ำที่เกิดจากป่าต้นน้ำแห่งนี้ได้หล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมและการดำรงชีพของราษฎร ด้วยความสำคัญนี้ทำให้เป็นที่หวงแหนของชุมชนและได้ดำเนินกิจกรรมด้านการอนุรักษ์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทำการพัฒนาพื้นที่สู่การท่องเที่ยวเชิงระบบนิเวศ เช่น การศึกษาธรรมชาติด้านพันธุ์ไม้ ล่องเรือคายัค ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเป็นจำนวนมาก เป็นการเสริมสร้างรายได้ให้ชุมชนอีกด้วย และ 4.ป่าชุมชนบ้านพุน้ำร้อน จ.สุพรรณบุรี มีต้นไม้ขนาดใหญ่เป็นลักษณะเด่น ขึ้นอยู่กระจัดกระจายทั่วไปของบริเวณพื้นที่ป่าชุมชน เช่น ไทร ทองหลาง ตะคร้อ ฯลฯ และต้นไม้พื้นล่างอย่าง กลอย เปราะ เฟิร์น มีจุดท่องเที่ยวคือแหล่งหินธรรมชาติ ถ้ำหน้าผา น้ำตกเขาวง อ่างเก็บน้ำเขาวง กรมป่าไม้และราษฎรมีการร่วมกันวางแผนส่งเสริมการอนุรักษ์ผืนป่าให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ สร้างรายได้ให้กับราษฎร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image