กองปราบรวบนักตุ๋น อ้างเป็นลูกน้อง ‘บิ๊กก้อง’ หลอกเหยื่อลงทุนร้านอาหาร สูญ 1.6 ล้าน

กองปราบรวบนักตุ๋นมืออาชีพ อ้างเป็นตำรวจกองปราบลูกน้อง “บิ๊กก้อง” หลอกเหยื่อลงทุนร้านอาหารสูญเงิน 1.6 ล้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมแถลงจับกุม นายพลกร สงวนนามสกุล อายุ 28 ปี

พร้อมของกลาง ปืนอัดลม จำนวน 2 กระบอก, ปืนไฟแช็ก จำนวน 1 กระบอก, เครื่องหมายขีดความสามารถหลักสูตรรบพิเศษแขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก และจู่โจมนาวิกโยธิน, แหวนสัญลักษณ์ตราแผ่นดิน, แหวนสัญลักษณ์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ, เสื้อกันกระสุน, เสื้อกั๊กสีดำมีตรากองบังคับการปราบปราม, ภาพถ่ายเคียงธงโรงเรียนนายร้อยตำรวจ,ซองปืนคาดเอวแบบพกซ่อน, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง, เอกสารให้มีและใช้อาวุธปืน โดยจับกุมได้ที่อพาร์ทเมนท์ย่านซอยกอไผ่ ถนนเทพประสิทธิ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า พฤติการณ์สืบเนื่องจากตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายว่า เมื่อประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 นายพลกร (ผู้ต้องหา) ได้อ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบหลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มนายพลกร โดยนายพลกร อ้างกับผู้เสียหายว่า ตนเองได้ไปเซ้งร้านอาหารแห่งหนึ่งมา และต้องการให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารดังกล่าวด้วย เนื่องจากมีผลตอบแทนที่ดี ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อตกลงร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา ต่อมาเมื่อผู้เสียหายสอบถามถึงผลตอบแทนในการลงทุน นายพลกรกลับขอผัดผ่อนการจ่ายผลตอบเเทนเรื่อยมา โดยมักจะใช้กลอุบายหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อต่างๆ นานา เช่น หลอกว่าตนเองเป็นตำรวจกองปราบ สังกัด กก.1 บก.ป. และเป็นลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. คนปัจจุบัน เพื่อให้ตนเองมีความน่าเชื่อถือ และทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นตำรวจกองปราบจริง

Advertisement

นอกจากนี้นายพลกร ยังส่งหลักฐานการพูดคุยระหว่างไลน์ที่ใช้ชื่อว่า “ผู้การกองปราบ”, “พี่ก้อง”, “THE KONG” กับไลน์ของตนเองให้ทางผู้เสียหายดู เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าผู้ต้องหาพูดคุยกับ พล.ต.ท.จิรภพ จริง โดยหลักฐานการพูดคุยดังกล่าว เป็นหลักฐานที่ผู้ต้องหาสร้างขึ้นมาเองทั้งหมด โดยมีทั้งการใช้ชื่อและภาพของ พล.ต.ท.จิรภพ มาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ไลน์ และนอกจากนี้ผู้ต้องหายังมีการแอบอ้างอีกว่าตนเองเป็นหลานของนายทหารระดับสูง ซึ่งตนเองกำลังจะได้รับมรดกจากนายทหารคนดังกล่าว ยืนยันว่าตนเองสามารถนำเงินผลตอบเเทนมาคืนให้กับผู้เสียหายได้อย่างแน่นอน

พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในระหว่างที่นายพลกร ขอผัดผ่อนเงินผลตอบเเทนของผู้เสียหายเรื่อยมานั้น ผู้นายพลกร ยังคงใช้กลอุบายอื่นๆ หลอกลวงผู้เสียหายอีก ไม่ว่าจะเป็นการหลอกให้เชื่อว่าตนเองมีเคราะห์กรรมร่วมกับตนเอง และ พล.ต.ท.จิรภพ หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินมาเพื่อทำพิธีแก้กรรมสะเดาะเคราะห์, หลอกลวงผู้เสียหายให้เชื่อว่าผู้ต้องหากำลังประสบปัญหาทางด้านการเงิน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้หย่ากับภรรยาและได้นำทรัพย์สินไปจำนำกับบุคคลอื่น จึงจำเป็นต้องขอยืมเงินผู้เสียหายเพื่อนำไปไถ่ถอนทรัพย์สินดังกล่าวออกมา และภายหลังจากที่ผู้เสียหายโอนเงินให้กับนายพลกรไปแล้วนั้น เจ้าตัวกลับขาดการติดต่อกับผู้เสียหาย ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอก และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม ซึ่งจากกลอุบายที่นายพลกร สร้างขึ้น ทำให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาเป็นทั้งสิ้น 162 ครั้ง จำนวนเงินกว่า 1.6 ล้านบาท

Advertisement

ซึ่งการการสอบสวนนายพลกร ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และจากการตรวจสอบประวัตินายพลกร พบว่า มีหมายจับติดตัว 2 หมาย คือ 1.หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 635/2563 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ความผิดฐาน “ฉ้อโกง” และ2.หมายจับศาลแขวงดุสิต ที่ 40/2564 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2564 ความผิดฐาน “ฉ้อโกง

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุลคลใดบุคคลหนึ่ง และไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงานหรือใชัยศตำแหน่ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือสิ่งที่หมายถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image