“เจ้าคุณเบอร์ลิน” โต้ดีเอสไอรื้อคดีพระธัมมชโย ใช้อำนาจอาณาจักรแทรกแซงศาสนจักร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระโสภณพุทธิวิเทศ (จิตติก์ ญาณชโย) เจ้าอาวาสวัดพุทธาราม เบอร์ลิน ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กเพจชื่อ “เจ้าคุณเบอร์ลิน” ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งหนังสือแจ้งมายังมหาเถรสมาคม (มส.) ให้รื้อฟื้นอธิกรณ์ที่คณะสงฆ์วินิจฉัยไปแล้ว เพื่อใช้กฎนิคหกรรมปรับอาบัติปาราชิกพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ว่า กรณีนี้ถือว่าดีเอสไอใช้อำนาจอาณาจักรแทรกแซงศาสนจักร และเข้าข่ายชักพระสงฆ์เข้าหาอาบัติ ซึ่งเป็นอาบัติสังฆาทิเสส (อาบัติหนักที่ต้องอาศัยความอนุเคราะห์จากคณะสงฆ์จึงออกจากอาบัติได้) เนื่องจากการลงนิคหกรรมเป็นกระบวนการทางพระธรรมวินัย โดยพระพุทธองค์ให้ภิกษุผู้มีสังวาสเสมอกัน (ทำสังฆกรรมร่วมกัน ) ลงนิคหกรรมกัน ที่สอดคล้องกับกฎ มส.ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2521) ว่าด้วยการลงนิคหกรรม เพื่อป้องกันการใส่ความกลั่นแกล้งซึ่งกันและกันโดยไม่เป็นธรรม จากภิกษุผู้เป็นนานาสังวาส ทั้งนี้ เป็นการป้องกันไม่ให้ภิกษุผู้ไร้ยางอายใช้อธิกรณ์ เป็นเหตุตะเกียกตะกายทำลายคณะสงฆ์ และการกระทำดังกล่าวของดีเอสไอ เป็นความผิดอย่างมหันต์ในหลักพระพุทธศาสนา เพราะเป็นการชักสงฆ์ให้เข้าหาอาบัติหนัก ผิดทั้งพระธรรมวินัย และผิดทั้งกฎนิคหกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พระโสภณพุทธิวิเทศได้โพสต์ทิ้งท้ายว่า อย่างไรก็ตาม การที่ดีเอสไอนำพระลิขิตอดีตสมเด็จพระสังฆราชมากล่าวอ้างในการรื้อฟื้นลงโทษพระสงฆ์ทางพระธรรมวินัยขึ้นอีก เป็นการชักอดีตสมเด็จพระสังฆราชให้เข้าหาอาบัติ ทั้งหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดกฎนิคหกรรม เป็นการทำผิดอย่างใหญ่หลวงต่อพระองค์ท่าน นอกจากนั้น ในกรณีของพระสงฆ์ที่ขวนขวายกระทำเช่นเดียวกัน ก็เข้าข่ายเป็นผู้ตะเกียกตะกายทำลายสงฆ์ผิดอาบัติสังฆาทิเสส แม้ดีเอสไอเป็นผู้ส่งเสริมพระสงฆ์ให้ทำเช่นนั้น ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ตะเกียกตะกายทำลายสงฆ์ ไม่พ้นอนันตริยกรรมเช่นเดียวกับพระสงฆ์ ดังนั้น ดีเอสไอ และพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือพระพุทธอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม จึงมิบังควรนำพระลิขิตพระสังฆราชมาใช้เป็นข้ออ้าง จนทำให้เกิดการสั่นสะเทือนแก่คณะสงฆ์ และพระพุทธศาสนา