สุชาติ กำชับกรมการจัดหางาน ประกันสังคม เร่งลงทะเบียนนายจ้างรักษาการจ้างงาน

สุชาติ กำชับกรมการจัดหางาน ประกันสังคม เร่งลงทะเบียนนายจ้างรักษาการจ้างงาน

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ว่าตามที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 อนุมัติกรอบวงเงิน 37,521.69 ล้านบาท สำหรับโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs โดยให้ทางกระทรวงแรงงานเป็นฝ่ายดูแลรับเรื่องลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาระดับการจ้างงานและส่งเสริมการจ้างงานใหม่ และสร้างสภาพคล่องให้นายจ้าง/สถานประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สามารถฟื้นฟูกิจการสร้างความแข็งแรงของธุรกิจ พร้อมรับการเปิดประเทศที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ โดยรัฐบาลจะโอนเงินให้นายจ้างในอัตรา 3,000 บาทต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือนนั้น

ในเรื่องนี้ ได้กำชับให้กรมการจัดหางานและสำนักงานประกันสังคม บูรณาการเร่งรัด ให้นายจ้างลงทะเบียนโดยให้กรมการจัดหางานใช้ฐานข้อมูลสถานประกอบการของประกันสังคม ที่นายจ้างสถานประกอบการมีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน มาดำเนินการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการให้ได้รับสิทธิตามนโยบายรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือ นายจ้างและรักษาระดับการจ้างแรงงานของลูกจ้างในธุรกิจ SMEs ให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้

นายสุชาติกล่าวว่า สำหรับเงื่อนไขและวิธีการลงทะเบียนนั้น จะต้องเป็นนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 สถานะ active มีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2564 นายจ้างต้องรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ระหว่างเข้าร่วมโครงการ (หากไม่สามารถรักษาระดับการจ้างงานให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น)

Advertisement

กรณีนายจ้างมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากยอดการจ้างงาน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มตามจำนวนการจ้างงานจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 5 นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัดตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฯ

“วิธีการลงทะเบียนและเอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้

1) ลงทะเบียนทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th

Advertisement

2) แนบไฟล์รูปภาพ (.jpg หรือ .png ขนาดแต่ละไฟล์ไม่เกิด 2MB) ของสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร, สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร, สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์ (นิตุบุคคล)/สำเนาบัตรประชาชน (นายจ้างบุคคลธรรมดา)

3) กรณีมอบอำนาจแนบไฟล์รูปภาพของสำเนาหนังสือมอบอำนาจ/สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ โดยสามารถตรวจสอบผลการอนุมัติได้ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม-20 พฤศจิกายน 2564 (หลังลงทะเบียน 5 วันทำการ) กรณีได้รับสิทธิตามเงื่อนไข และไม่ได้อยู่ในกลุ่มทบทวนสิทธิ จะได้รับเงินอุดหนุนทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน คือ 30 พฤศจิกายน 2564, 30 ธันวาคม 2564 และ 31 มกราคม 2565” นายสุชาติกล่าว

นอกจากนี้ นายสุชาติยังกล่าวถึงเป้าหมายของโครงการนี้ว่า จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ได้ถึง 394,621 แห่ง เพื่ออุดหนุนค่าจ้างผู้ประกันตนมาตรา 33 สัญชาติไทยได้ 4,034,590 คน ส่งเสริมการจ้างงานใหม่ในเดือนที่ 2 และ 3 สูงสุด 201,730 ราย เป็นเงิน 1,210,380,000 บาท รวมงบประมาณที่จะช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ทั้งสิ้น 37,521,690,000 บาท

ส่วนความคืบหน้าหลังจากเปิดลงทะเบียนวันแรก (ณ วันที่ 20 ตุลาคม เวลา 17.00 น.) ปรากฏว่ามียอดรวมสถานประกอบการได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการแล้ว 5,091 ราย จำนวนลูกจ้างคนไทยที่ได้รับสิทธิ 123,847 คน แบ่งเป็นดังนี้ 1) กิจการในพื้นที่ กทม. 2,231 ราย จำนวนลูกจ้างคนไทยได้รับสิทธิ 53,548 คน 2) กิจการในปริมณฑล 1,101 ราย จำนวนลูกจ้างคนไทยได้รับสิทธิ 29,218 คน 3) กิจการในภาคกลาง 687 ราย จำนวนลูกจ้างคนไทยได้รับสิทธิ 18,247 คน 4) กิจการในภาคใต้ 454 ราย จำนวนลูกจ้างคนไทยได้รับสิทธิ 8,799 คน 5) กิจการในภาคเหนือ 365 ราย จำนวนลูกจ้างคนไทยได้รับสิทธิ 6,975 คน และ 6) กิจการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 253 ราย จำนวนลูกจ้างคนไทยได้รับสิทธิ 7,060 คน

ทั้งนี้ ผู้สนใจที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image