“ชาญวิทย์” ชี้ กทม. ไม่แคร์ประวัติศาสตร์ ถามซ้ำไล่ชุมชน ‘ป้อมมหากาฬ’ แล้วได้อะไร ?

สืบเนื่องการไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานานถึง 24 ปี โดยจะมีการปรับปรุงพื้นที่เพื่อใช้สร้างสวนสาธารณะ ตามแผนแม่บทเมื่อ 50 ปีก่อน  หลังมีความพยายามในการพูดคุยเพื่อหาทางออกหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ชุมชนป้อมมหากาฬ ถูกเจ้าหน้าที่กทม.รื้อถอนบ้านบางส่วนไปแล้วระหว่างวันที่ 3-4 ก.ย. ยังคงเหลืออีก 38 หลังที่กทม.มุ่งรื้อถอนโดยคาดหวังให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยในวันที่ 28 – 29 ก.ย. จะมีการเข้ารื้อถอนบ้านเรือนเพิ่มเติมอีก

(อ่านข่าว ชุมชนป้อมมหากาฬเตรียมถูกรื้อถอนระลอก 2 พรุ่งนี้ (28 ก.ย.) ชาวบ้านยันขอตั้งพหุภาคี)

ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ศาสตราจารย์ ดร. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักประวัติศาสตร์ชื่อดัง อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์  กล่าวว่า ตนมองไม่เห็นว่าหากกทม.ไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ สังคมจะได้ประโยชน์อะไรจากการกระทำเช่นนี้  ไม่เพียงเท่านั้น ชุมชนดังกล่าวยังอยู่อาศัยกันมาเป็นร้อยปี เหตุใดจะมาไล่ให้ออกนอกพื้นที่ถิ่นฐานบ้านเรือน  การที่ชาวบ้านต่อสู้อย่างอหิงสากับอำนาจรัฐ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

ศาสตราจารย์ ดร. ชาญวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า กรุงเทพมหานคร ไม่สนใจประวัติศาสตร์ จึงทำให้ปัญหาดังกล่าวกลายเป็นเรื่องยืดเยื้อ ทั้งที่ควรจะทำให้ชุมชนป้อมมหากาฬเป็น “มิวเซียม” กลางกรุงรัตนโกสินทร์ กลับพยายามไล่รื้อ ในอนาคตจะเป็นจุดด่างพร้อยในประวัติศาสตร์ของตนเอง สุดท้าย ตนขอถามอีกครั้งหลังจากที่เคยถามไปแล้วตั้งแต้เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่า รื้อแล้ว ได้อะไร ?

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image