“บิ๊กต๊อก”ชี้กรณี “บิ๊กติ๊ก”รอหน่วยหลักสอบก่อน ลั่นพร้อมทำให้สังคมมั่นใจรัฐปราบทุจริต(คลิป)

“บิ๊กต๊อก”เผย”ศอตช.”รอหน่วยหลักตรวจกรณี “บิ๊กติ๊ก”ก่อน ยังไม่ก้าวก่าย ชี้พร้อมทำให้สังคมมั่นใจรัฐบาลปราบทุจริต

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ศูนย์การประชุมอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี ถ.แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงกรณีองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เสนอให้มีการตรวจสอบครอบครัวของพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังตกเป็นประเด็นสังคมอยู่ในขณะนี้ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงปรากฎอย่างชัดเจนและรวดเร็ว และไม่ให้กรณีนี้เกิดขึ้นอีก ว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวขณะนี้ยังไม่ถึง ศอตช. อีกทั้ง ต้องเข้าใจว่า ศอตช. เป็นหน่วยงานบูรณาการ ถ้าหน่วยงานในศอตช.ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระอย่าง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขาสามารถรับเรื่องและดำเนินการตรวจสอบได้เองก็จะจบ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาสู่ระบบการทำงานแบบบูรณาการ

“ผมก็รอว่า หน่วยตรวจสอบทำได้ ซึ่งมันอยู่ที่ตัวของหน่วยต่างๆ ว่าเขาจะเอาเข้ามาที่ศูนย์หรือไม่ ผมไม่ได้มีหน้าที่บังคับให้เขาเอาเข้ามา ก็จะเป็นอย่างนี้ตลอด เหมือนเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.ที่ผ่านมา) มติครม. เรื่องจำนำข้าวก็มาสู่กระบวนการตรวจสอบของ ศอตช. เพื่อจะบูรณาการหาผู้ที่รับผิดชอบ นั่นหมายความว่าหน่วยตรวจสอบทั้งหลายที่ต่างคนต่างทำเริ่มจะมีปัญหาในการให้ข้อมูลต่างๆ เขาก็ต้องเข้ามาที่ศูนย์เราอย่างนี้ ซึ่งเรื่องนี้ผมเองก็ต้องเข้าไปศึกษารายละเอียด เป็นต้น ไม่ใช่ทุกเรื่องและผมโดดเข้าไปทำเลยมันไม่ใช่ เพราะพวกนี้คือองค์กรอิสระที่ผมจะไม่ลงไปสั่งการใดๆทั้งสิ้น และเราก็ไม่ควรไปก้าวก่ายงานของเขาด้วย จึงขอให้รอเวลา และถ้าวันไหนเขาส่งเรื่องนี้มาให้ศอตช. ผมก็จะเรียนให้ทุกท่านทราบอีกครั้ง” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นฯ ถึงขั้นออกแถลงการณ์ให้มีการตรวจสอบอย่างนี้ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า องค์กรดังกล่าวก็อยู่กับศอตช. ซึ่งมีทั้งองค์กรอิสระ องค์กรจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งที่ท่านพูดตนไม่แน่ใจว่าจะเข้ามาที่ศอตช.เมื่อไร หรือเขาอาจจะเรียกร้องหน่วยตรวจสอบให้ดำเนินการตรวจสอบหรือไม่ เพราะศอตช.เป็นหน่วยบูรณาการทำงาน

เมื่อถามต่อว่า ศอตช.จะสามารถทำงานเชิงรุกในการเข้าไปตรวจสอบได้หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่ได้ เพราะตนไม่มีเครื่องมือ ถ้าท่านพูดว่าได้ ก็เท่ากับว่าตนไปสั่งเขา ไปสั่งให้สตง.นำเรื่องนี้เข้ามาที่ศอตช. หรือสั่ง ป.ป.ช. ซึ่งมันไม่ได้ อย่าให้ศอตช.เป็นศูนย์ก้าวก่ายงาน แต่ท้ายสุดแล้วถ้าจะมาใช้ศูนย์บูรณาการตรงนี้ ใช้อำนาจทางวินัยและการปกครอง ตนก็เชื่อมกับรัฐบาลได้ เพราะ ศอตช.เป็นเรื่องของรัฐบาล เพื่อออกมาตรา 44 ให้เขา ซึ่งเขาก็เสนอมา หรือเขาอาจจะเสนอมาให้เชิญหน่วยงานนั้นมาร่วมประชุม ก็สามารถทำได้ ตนก็ใช้อำนาจหน้าที่ตรงนี้ เช่น สตง.อาจจะขาดเรื่องนี้ ขอให้เชิญกระทรวงนั้นมาร่วมประชุม เราก็จะเชิญให้ได้

Advertisement

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีคนมาร้องเรียนให้ศอตช.ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น สามารถทำได้ แต่ร้องแล้วก็ไม่ได้หมายความว่า จะเอามาดำเนินการตรวจสอบทันที แต่ก็จะส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เขารับผิดชอบตรวจสอบก่อน ถ้าเห็นว่าเขาทำได้โดยไม่มีเรื่องที่ต้องให้ศอตช.ดำเนินการ มันก็ไม่ต้อง เพราะศอตช.ไม่มีเจ้าหน้าที่ เป็นหน่วยที่ทำงานแบบบูรณาการ เพราะการที่ตนจะต้องมานั่งสืบสวนสอบสวนมันไม่ใช่ มันจึงต้องกลับไปยังหน่วยตรวจสอบของเขาอยู่ดี ทั้งนี้ ตนยินดีที่จะทำให้สังคมเกิดความมั่นใจในระบบป้องกันและปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image