“บิ๊กต๊อก”รวบรวมข้อมูล ประเด็นเรียกค่าเสียหายจำนำข้าว หลัง ครม.มอบ”ศอตช.”ก่อนนัดประชุม ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ระบุ ยังไม่กำหนดกรอบเวลา
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ศูนย์การประชุมอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี ถ.แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงกรณีมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา มอบหมายให้ ศอตช. เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานปราบปรามทุจริตทั้งหมด ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐทั้งระดับนโยบาย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติและเอกชนที่เกี่ยวข้องในโครงการรับจำนำข้าวในส่วนความเสียหายอีกร้อยละ 80 หรือวงเงิน 1.42 แสนล้านบาท ว่า ในส่วนของศอตช.นั้น ยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะเพิ่งทราบจากที่ประชุมเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากเห็นว่าหน่วยของเราสามารถทำงานได้เราก็จะทำ ซึ่งตนก็ต้องไปศึกษารายละเอียดของเรื่องดังกล่าวก่อน โดยจะให้เลขานุการ ศอตช. รวบรวมหน่วยงานที่ดูแลเรื่องข้าวทั้งระบบเลยว่ามีใครบ้าง เพื่อจะทยอยเรียกมา เพราะว่ามันเป็นขั้นตอนการหาเกี่ยวกับผู้กระทำผิด ซึ่งคงต้องใช้เวลาดูโครงสร้างและที่มาที่ไปว่าใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จก่อนที่จะมีการพิจารณาฐานความผิดทางละเมิดในเดือน ก.พ. 2560 หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า มันก็อาจจะเป็นเส้นเวลาหนึ่งที่ตนต้องนำมาพิจารณา จึงต้องขอไปศึกษาก่อน แต่ก็ได้เรียกมาพูดคุยแล้วว่า อะไรคือเส้นเวลาในการทำงานของเราที่จะต้องเร่งรีบ ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้เลขานุการ ศอตช. ไปดำเนินการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยให้ดูว่ารอบแรกที่เราจะเรียกมาเป็นหน่วยงานใดบ้าง
ด้าน นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะ เลขานุการ ศอตช. กล่าวว่า ในส่วนของ ป.ป.ท. ได้รับการร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวกว่า 800 คดี โดยต้นเดือน ต.ค.นี้ จะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณาสั่งไต่สวนและตั้งอนุกรรมการขึ้นมาดำเนินการเรื่องนี้ จากนั้น เราก็เชิญอนุกรรมการทั้งหมดมาทำความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งการทำอย่างนี้ก็จะทำให้การตรวจสอบรวดเร็วขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นก็จะทำให้เกิดความล่าช้า และติดพันไปถึงคดีอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคดีอื่นเราจะไม่ทำ เราก็ทำตามปกติ
นายประยงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่ครม.มีมติเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการรับผิดทางละเมิด และได้มอบหมายให้ศอตช.ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนในฐานะเลขานุการ ศอตช. ก็จะต้องเป็นจ้าภาพนำข้อมูลทั้งหมดมาดู อีกทั้ง รมว.ยุติธรรม ก็ได้สั่งการมาแล้วว่าให้ประสานหน่วยงานที่เขาทำมาตั้งแต่ต้นมาร่วมหารือกัน เพื่อที่การตรวจสอบจะได้รวดเร็วและไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนรายละเอียดอื่นๆว่าจะมีอะไรบ้าง ต้องมีกรอบระยะเวลาการทำงานเท่าไรนั้น ต้องขอดูเนื้อหาก่อน