รถตำรวจนำ ‘วีไอพี’ ขบวนคนธรรมดาไม่มีสิทธิ?
เหตุการณ์บุคคลวีไอพีนั่งรถเบนซ์หรู มีรถตำรวจนำทางบริเวณถนนกำแพงเพชร 7 ซึ่งมี 2 ช่องทางจราจรวิ่งสวนกัน ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ขณะนั้นสภาพการจราจรติดขัดทำให้รถนำขบวนวิ่งเข้ามาในเลนย้อนศรเพื่อเปิดทาง พร้อมโบกมือให้รถที่ขับสวนมาหลบเข้าข้างทาง เผอิญมีสาวใจเด็ดไม่ยอมหลีกให้เพราะถือว่าตัวเองวิ่งมาในเลนถูกต้อง จนมีการโต้เถียงกับตำรวจนำขบวนและถ่ายคลิปนำมาเผยแพร่ เป็นที่โจษจันสนั่นโลกโซเชียล
นักสืบไซเบอร์ไปขุดคุ้ยบุคคลในรถหรูคันดังกล่าว ปรากฏผู้ที่นั่งมาคือคุณหมอนักธุรกิจคนดัง นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป
เคสเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขับนำขบวนรถหมอบุญ จะปฏิบัติถูกต้องตามระเบียบประการใด หรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกองบังคับการตำรวจนครบาล 5
แต่ว่ากันถึงเรื่องรถนำขบวนนั้น สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ประกาศหลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวนของบุคคลสำคัญ นอกจากขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งมีรถนำขบวนตามปกติประเพณีแล้ว บุคคลสำคัญอื่นๆ ที่สามารถใช้รถตำรวจนำขบวนได้โดยมิต้องร้องขอ คือ ประธานองคมนตรี รัฐบุรุษ รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสำคัญ อาทิ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ประธานและรองประธานรัฐสภา ประธานศาล สมเด็จพระสังฆราช ผู้นำฝ่ายค้าน ผู้เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ส่วนการใช้รถตำรวจทางหลวงนำขบวนที่จะต้องอนุญาตให้ใช้เป็นครั้งๆ ไป ตามความจำเป็น อาทิ ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ ผู้นำทางศาสนาอื่น สมเด็จพระราชาคณะ
นอกจากนี้ ยังมีกรณีขบวนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สุดของบุคคลในตำแหน่งหน้าที่สำคัญของส่วนราชการต่างๆ เพื่อความปลอดภัย
ขณะที่หลักเกณฑ์การขอใช้รถตำรวจทางหลวงนำขบวน ต้องแจ้งวัตถุประสงค์ รวมถึงดูจำนวนผู้โดยสารและจำนวนรถที่จะเดินทางด้วย
ที่สำคัญ ในเบื้องต้นรถนำขบวนจะต้องได้รับอนุญาตก่อน โดยผู้ที่นำขบวนและตำรวจในพื้นที่เส้นทางขบวนผ่านจะต้องประสานงานกัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการจราจร
แม้มีระเบียบกำหนดชัดเจน แต่ทุกวันนี้ก็ยังเห็นแต่ขบวนวีไอพีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เศรษฐี ไฮโซ ที่ไปเรียนหลักสูตรต่างๆ จัดทริปไปเที่ยวเตร่เฮฮา อ้างเป็นการทัศนศึกษาดูงาน ขอรถหลวงนำปิดหัวปิดท้ายเพื่อแสดงเพาเวอร์ จนชินตา
ดังนั้น เพื่อความเข้าใจตรงกัน กรณีบุคคลธรรมดาขอใช้รถตำรวจนำขบวนจะมีหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติประการใด พล.ต.ต.สุวิชชา จินดาคำ ผบก.จร. ชี้แจงว่า มีหลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวนของบุคคลสำคัญ หรือนักการเมือง หรือการใช้รถนำขบวนรับรองแขกต่างประเทศในการเยือนประเทศไทยไว้ แต่ไม่ได้ระบุหลักเกณฑ์กรณีรถนำบุคคลธรรมดาไว้ แต่ระบุในส่วน ขบวน ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้รถตำรวจนำขบวน เพื่อความปลอดภัยของขบวน หรือความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนตามความจำเป็นแก่กรณี เช่น รถนักเรียน ขบวนรถซึ่งเดินทางไปประกอบศาสนกิจหรือพิธีการ ขบวนที่มีรถหลายคัน เป็นต้น
กรณีขอใช้รถนำขบวนดังกล่าวในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บังคับการตำรวจจราจร หรือผู้ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับการตำรวจจราจรมีอำนาจพิจารณาอนุญาต ถ้าเป็นพื้นที่นอกเขตกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง หรือผู้ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับการตำรวจทางหลวงเป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้ใช้รถตำรวจนำขบวนเป็นครั้งๆ ไปตามความจำเป็น
กรณีรถตำรวจนำขบวนรถนักเรียนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะพิจารณาจากภารกิจอะไร ไปที่ไหน ด้านความปลอดภัย อย่างเช่นเด็กๆ ไปทัศนศึกษาเป็นขบวนที่มีคนจำนวนมาก ทางโรงเรียนจะทำหนังสือมาขอความร่วมมือให้ช่วยอำนวยความสะดวก เพื่อความปลอดภัยขอคณะนักเรียน
ส่วนเรื่องการทำหนังสือมาขออนุญาตไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องทำมาล่วงหน้าอย่างน้อยกี่วัน แต่ส่วนใหญ่ทางโรงเรียนจะทำมาล่วงหน้าอยู่แล้ว เพื่อจะได้มีการ
เตรียมเจ้าหน้าที่ไปรับตามวันเวลาที่นัดหมาย หากขอมากะทันหันอาจจัดเจ้าหน้าที่ให้ไม่ได้ เพราะทุกคนมีตารางการปฏิบัติงานชัดเจน ซึ่งการขอรถนำขบวนนักเรียนก็ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเป็นการอำนวยความสะดวกการจราจร และเป็นการบริการประชาชนอยู่แล้ว ผบก.จร.แจกแจง
ดังนั้น เมื่อไม่มีหลักเกณฑ์กรณีรถนำบุคคลธรรมดา แล้ววีไอพีใช้สิทธิอะไรขอให้มีรถตำรวจนำทาง เป็นอีกกรณีตัวอย่างที่ต้องไปแก้ไข ป้องกันการใช้สิทธิพิเศษต่อไป
