ตำรวจปิดเกม คนร้ายชิงทรัพย์ ธ.กรุงเทพ สาขาบ้านเก่า สารภาพติดหนี้กว่า 3 ล้าน

สืบ ภ.2 ปิดเกมคนร้ายชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านเก่า เขียนจดหมายน้อยข่มขู่

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 22.00 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้ศึก ผกก.สส.บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.ประจักษ์พงษ์ สุริยา รอง ผกก.สส.บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.สุวัฒน์ บริรักษ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.เอกกร วรรณทอง พ.ต.ต.อสวรรธน์ ศิระเวรินทร์ สว.กก.สส.บก.สส.ภ.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 และ พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงร่วมกันจับกุม นายสุริยา ตะโกนา อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาบ้านเก่า ม.3 ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยของกลางเงินสดที่ได้มาจากการชิงทรัพย์ จำนวน 595,000 บาท อาวุธปืน(ปลอม) สีดำ จำนวน 1 กระบอก โดยกล่าวหาว่าชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดและพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.27 น. มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปีเศษ สูงประมาณ 170 ซม. สวมหมวกแก๊ปสีดำและสวมแมสก์ปิดบังใบหน้า ทำทีเข้าไปใช้บริการที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาบ้านเก่า ม.3 ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยกดบัตรคิวและเข้ารับบริการตามปกติ เมื่อพบพนักงานธนาคาร คนร้ายได้ยื่นสมุดบัญชีเงินพร้อมแนบจดหมายน้อย เขียนข้อความข่มขู่ว่า “ห้ามคุยกับใคร ในกระเป๋ามีปืนทำตัวปกติ เอาเงินมา 4 ล้าน ถ้าพูดคุยกับใครมีคนตาย ซึ่งคุณเป็นคนแรก เอามาวางบนโต๊ะ” พนักงานธนาคารเกิดความกลัวจึงได้นำเงินในลิ้นชักให้กับคนร้ายไป จำนวน 600,000 บาท คนร้ายได้นำเงินใส่กระเป๋าสะพายเดินออกจากธนาคาร ขึ้นรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงหลบหนีไป

(ชมคลิป)

Advertisement

พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า จากการสืบสวนคนร้ายที่ก่อเหตุ ทราบชื่อว่า นายสุริยา ตะโกนา ทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปที่โรงงานและบ้านพักแต่ไม่พบตัว ตรวจสอบจนทราบว่านายสุริยานำเงินสดที่ได้จากการชิงทรัพย์หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน และจากการตรวจกล้องวงจรปิด จนพบว่าผู้ต้องหาขึ้นรถตู้โดยสารไปที่กรุงเทพฯ แล้วต่อขึ้นรถยนต์โดยสารจากขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามผู้ต้องหาไปอย่างกระชั้นชิด และเกรงว่าผู้ต้องหาอาจเป็นอันตรายแก่ประชาชน และผู้คนสัญจรรถโดยสารประจำทางทั่วไป เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายมีอาวุธปืนติดตัว และเพิ่งก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคาร

จึงร่วมกับตำรวจทางหลวง กก.1 บก.ทล.ในเส้นทางที่ผู้ต้องหามุ่งหน้าหลบหนีให้ช่วยกันสกัดจับ จนสามารถติดตามไปพบตัวนายสุริยา ขณะอยู่บนรถยนต์โดยสารประจำทางสายกรุงเทพ-เชียงใหม่ บริเวณหน้าปั๊ม ปตท. ถ.สายเอเชีย ต.ท่าโฉนด อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวขอตรวจค้น พบเงินสดที่ได้มาจากการชิงทรัพย์ จำนวน 595,000 บาท ที่ตัวนายสุริยา โดยนายสุริยาให้การยอมรับว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านเก่าจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์ฯ และขยายผลจนนำไปตรวจยึดอาวุธปืน(ปลอม) สีดำ จำนวน 1 กระบอก ทิ้งไว้ในถังขยะ ภายในสถานีขนส่งหมอชิต จตุจักร กรุงเทพฯ จับกุมผู้ต้องหาบริเวณบริเวณหน้าปั๊ม ปตท. ถ.สายเอเชีย ต.ท่าโฉนด อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท

Advertisement

ผบก.สส.ภ.2 กล่าวอีกว่า สำหรับมูลเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้ นายสุริยาให้ข้อมูลว่าเกิดจากติดหนี้บัตรเครดิต บ้าน รถ จำนองที่นา มีหนี้สินจำนวนกว่า 3 ล้านบาท วางแผนก่อเหตุมาตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.64 โดยผู้ต้องหาไปดูลาดเลาธนาคารมาก่อนหน้าแล้ว 4 แห่ง ก่อนลงมือกระทำความผิด นายสุริยารับว่าเขียนจดหมายน้อย เพราะไม่อยากให้คนมาใช้บริการธนาคารแตกตื่น

พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกอาจ คนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารโดยมีอาวุธปืนซึ่งภายในมีประชาชนหลายคนกำลังใช้บริการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนหาตัวคนร้ายได้รวดเร็ว จากกล้องวงจรปิดตามโครงการ สมาร์ท เซฟตี้โซน 4.0 (smart safety zone 4.0) เป็นนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 จึงจัดกำลังตำรวจ บก.สส.ภ.2 จำนวนหลายชุดออกติดตามคนร้าย พร้อมบูรณาการตำรวจทางหลวงเนื่องจากคนร้ายมีพฤติกรรมเป็นอันตรายแก่ประชาชน และผู้คนสัญจรรถโดยสารประจำทางทั่วไปเพราะคนร้ายมีอาวุธปืนติดตัว และเพิ่งก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารหลบหนี

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image