เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล สมาชิกเครือข่ายสลัมสี่ภาค และสหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ (สอช.) กว่า 1,000 คน เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีนายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รับหนังสือแทน
นายไมตรีกล่าวภายหลังว่า เครือข่ายสลัมสี่ภาคได้ยื่นข้อเรียกร้อง เช่น ขอให้รัฐบาลสนับสนุนโครงการบ้านมั่นคงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นหลักประกันด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย, รัฐบาลต้องผลักดันให้มีการออกกฎหมายบำนาญแห่งชาติ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีหลักประกันรายได้ขั้นพื้นฐาน และให้รัฐบาลสนับสนุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการรักษาพยาบาลโดยไม่เก็บค่ารักษาปลายทาง และต้องให้สิทธิกลุ่มคนที่ยังเข้าไม่ถึงสิทธิ เช่น คนที่ยังไม่มีบัตรประชาชนให้สามารถเข้ารับการรักษาได้ เป็นต้น นอกจากนี้ ในส่วนการแก้ไขปัญหาที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยและทำกินนั้น รัฐบาลต้องจัดให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานเพื่อให้มีโฉนดชุมชน และเดินหน้านโยบายโฉนดชุมชน โดยการส่งมอบพื้นที่นำร่องสำหรับชุมชนที่อยู่ในที่ดินสาธารณะที่ผ่านกระบวนการพิจารณาแล้ว รวมทั้งเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.สิทธิชุมชนและการจัดการทรัพยากร และ พ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน เพื่อให้คนจนเข้าถึงที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยได้ อีกทั้งขอให้รัฐคุ้มครองพื้นที่พิพาทที่อยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้ชาวบ้านถูกขับไล่และดำเนินคดี
ส่วน สอช.ได้ยื่น 4 ข้อเรียกร้อง ได้แก่ 1.ให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยโดยเร่งด่วน โดยตัวแทนองค์กรชาวบ้านขอเข้าร่วมประชุมและชี้แจงด้วย 2.ให้มีการแก้ไขกฎหมาย ข้อระเบียบ คำสั่ง ที่ไม่เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย 3.กรณีที่รัฐมีนโยบายทวงคืนที่ดินประเภทต่างๆ เช่น ส.ป.ก. พื้นที่ป่าสงวนฯ และอุทยานฯ เป็นต้น จากผู้ไม่มีสิทธิครอบครอง ขอให้ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนที่ด้อยโอกาส และ 4.กรณีไล่รื้อชุมชนในที่ดินของรัฐ (ป้อมมหากาฬ) ขอให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการพหุภาคีขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นายไมตรีกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ได้ชี้แจงว่า พม.ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย 10 ปี (พ.ศ.2559-2568) โดยมอบหมายการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จัดทำโครงการในลักษณะการเช่า เช่าซื้อ หรือซื้อ ในราคาที่กลุ่มเป้าหมายสามารถรับภาระได้ รวมทั้งหมด 1,707,437 ครัวเรือน และมอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) จัดทำแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย (เมืองและชนบท) ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อรองรับชุมชนแออัด ชุมชนบุกรุก ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ทั้งในเมืองและชนบท รวม 1,044,510 ครัวเรือน โดยแยกเป็น 1.ชุมชนแออัดและผู้มีรายได้น้อยในเมือง จำนวน 692,752 ครัวเรือน ประกอบด้วย บ้านมั่นคง 680,808 ครัวเรือน ชุมชนริมคลอง 11,004 ครัวเรือน และคนไร้บ้าน 698 ครัวเรือน) และ 2.ผู้มีรายได้น้อยในชนบท ภายใต้โครงการบ้านพอเพียงชนบท จำนวน 352,000 ครัวเรือน โดยแผนงานทั้งหมดจะเริ่มขับเคลื่อนตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
