วันนี้ ‘เจ้าสัวเปรมชัย’ ระทึก ศาลฎีกานัดตัดสิน ‘คดีเสือดำ’

วันนี้ ‘เจ้าสัวเปรมชัย’ ระทึก ศาลฎีกานัดตัดสิน ‘คดีเสือดำ’

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ในคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จากกรณีที่นายวิเชียร ชิณวงษ์ อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร นำเจ้าหน้าที่จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก ที่เข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ท้องที่ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อมยึดซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2561

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษ จำเลยที่ 1 คือนายเปรมชัย กรรณสูต จำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา จากข้อหาดังนี้ 1.ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษาจำคุก 6 เดือน 2.ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และ 3.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 8 เดือน 4.ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.ร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 2 เดือน

จำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ ถูกลงโทษจำคุก 13 เดือน จำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน จำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ รวมโทษจำคุก 2 ปี 17 เดือน และให้จำเลยที่ 1 นายเปรมชัย กับจำเลยที่ 4 นายธานี ร่วมกันชำระค่าเสียหาย 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ทั้งนี้ นายเปรมชัยและนายยง ยื่นหลักทรัพย์คนละ 4 แสนบาท นายธานี ทุมมาศ ยื่นหลักทรัพย์ 5 แสนบาท ขอประกันตัวสู้คดีในชั้นอุทธรณ์

Advertisement

ต่อมาวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 โดยพิพากษายืนความผิดของจำเลยตามศาลชั้นต้น พร้อมเพิ่มโทษนายเปรมชัย เป็นจำคุก 2 ปี 14 เดือน นายยงค์ เพิ่มโทษเป็นจำคุก 2 ปี 17 เดือน นางนที เพิ่มโทษเป็นจำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับเงิน 40,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนนายธานี เพิ่มโทษเป็นจำคุก 2 ปี 21 เดือน พร้อมทั้งให้จำเลยทั้ง 4 คนร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติฯ รวม 2 ล้านบาทตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งให้เพิ่มหลักทรัพย์ประกันกันตัวจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 อีกคนละ 2 แสนบาท

จากนั้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 นายเปรมชัย นายยงค์ และนายธานี ยื่นคำร้องขอฎีกาโดยผู้พิพากษาได้รับรองอนุญาตให้จำเลยที่ 1, 2 และ 4 ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ส่วนนางนที จำเลยที่ 3 คดียุติตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 เนื่องจากอัยการโจทก์และจำเลยไม่ติดใจยื่นฎีกา คดีจึงถือว่าสิ้นสุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image