วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลหลักแก้ว อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ได้รับความเดือดร้อนหนักหลังจากน้ำประปาหมู่บ้าน ได้เกิดเสีย มีตะกอนขุ่น เป็นสีดำและมีกลิ่นเหม็น ไม่สามารถใช้อุปโภคและบริโภคได้ทั้งหมู่บ้าน โดยทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลหลักแก้ว พร้อมผู้บริหารจัดการน้ำประปาเร่งดำเนินการแก้ไขช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชน เบื้องต้นโดยการนำรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในหมู่บ้าน พร้อมหาสาเหตุและแนวทางการแก้ไข และเตรียมนำเรื่องเข้าประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหลักแก้วเพื่อขอทำเรื่องแก้ไขขุดบ่อใหม่เป็นการแก้ไขปัญหาขั้นเด็ดขาด เพราะบ่อปัจจุบันเก่าเกินแก้ไข
นายสมใจ สมตัว อายุ 50 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลหลักแก้ว กล่าวว่า นำประปาในหมู่บ้านได้เสียมานานหลายวันแล้วโดยมีตะกอนขุ่นเหลืองและเป็นสีดำ เวลาใช้อาบแล้วคันทั้งตัว ส่วนนางรัตติกาญจน์ แจ่มเจริญฟ้า อายุ 56 ปี ชาวบ้านตำบลหลักแก้ว กล่าวว่า น้ำประปาหมู่บ้านได้เสียมีกลิ่นเหม็นขุ่นเป็นสีแดง เวลาล้างถ้วยล้างชามนั้นก็แสนลำบากน้ำยาล้างจานไม่มีฟองเลย เป็นมาหลายวันแล้วแต่ยังโชคดีที่ทาง อบต.นำรถบรรทุกน้ำมาช่วยเหลือ
ด้านนายสำริด ทองวิโรจน์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลหลักแก้ว เปิดเผยว่า หลังจากน้ำประปาหมู่บ้านได้เสียลงได้แจ้งให้ผู้จัดการนำประปาหมู่บ้านทราบพร้อมเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนแต่ก็ยังมีปัญหาใช้ไม่ได้ร่วมเดือนแล้ว นายผดุง ป้อมศรี อายุ 64 ปี ผู้ดูแลการผลิตนำประปาหมู่บ้าน กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจเช็ก แล้วหาทางแก้ไขเบื้องต้นคาดว่าบ่อนำใต้ดินที่ขุดเจาะไปนั้นอาจมีการรั่วซึมทำให้มีนำเสียมาเจือปน โดยหาทางแก้ไขช่วยอย่างเร่งด่วนแล้ว พร้อมได้ทำหนังสือรายงานต่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลักแก้ว แล้วถึงสาเหตุแนวทางการแก้ไข
ขณะที่นายสาธิต แจ่มฟ้า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลักแก้ว กล่าวว่า หลังได้ทราบข่าวประปาหมู่บ้านหมู่ 7 ได้เสีย จึงได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนและได้ร้องขอรถน้ำจากทางเจ้าหน้าที่ทหารที่ดูแลรักษาความสงบเข้าส่งนำอุปโภคบริโภคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น ส่วนสาเหตุนั้นคาดเกิดจากใช้มานานแล้วเกิดการรั่วซึมที่บริเวณบ่อน้ำไต้ดินการแก้ไขเป็นไปโดยยากลำบาก ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้นจะนำเรื่องเข้าประชุมสภา อบต.หลักแก้ว เพื่อขอความเห็นชอบในการขุดบ่อทำน้ำประปาแห่งใหม่เพื่อเป็นการแก้ไขอย่างยั่งยืนต่อไป