จากกรณีนายแพน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี ชาวตำบลสะแกซำ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทำเงินเก็บสะสมที่ได้รับจากเบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการ ทั้งของตนเอง ภรรยา และหลานสาวที่บกพร่องทางสติปัญญาหล่นหาย รวมจำนวน 15,000 บาท ได้จูงหลานสาวออกตามหาเงินตามท้องถนน ปรากฏภาพความน่าสงสารเวทนาเผยแพร่และแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์นั้น
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า หน่วยงานในสังกัดพม. ได้แก่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ บ้านพักเด็ก และศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบุรีรัมย์ได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนายแพน โดยเข้าไปสอบถามความเป็นอยู่และรายได้ครอบครัว พบว่าปัจจุบันนายแพนและภรรยาได้รับเบี้ยผู้สูงอายุอยู่เดือนละ 700 บาท เบี้ยคนพิการ 3 คนๆละ 800 บาท ขณะที่พ่อของหลานสาวส่งเงินให้เดือนละ 3,000 บาท รวมรายได้ 6,800 บาท เบื้องต้น พม.ได้ช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบาก จำนวน 2,000 บาท
อธิบดีผส.กล่าวอีกว่า พร้อมได้ประสานหน่วยงานช่วยเหลือ ดังนี้ ได้ประสานประสานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะแกซำ เพื่อรับไปรักษาดวงตาของยาย เนื่องจากมีปัญหามีเนื้อเยื่อคลุมตาซ้าย ทำให้มองไม่ชัด และยังไม่ได้รับการรักษาแต่อย่างใด โดย รพ.สต.จะพายายไปพบแพทย์ ขณะที่หลานสาวนั้น พบว่ามีความบกพร่องทางสติปัญญา ปัจจุบันเข้าเรียนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลสะแกซำ ด้านพัฒนาการเด็กเบื้องต้น มีพัฒนาการที่ดี สามารถเรียนรู้ได้ จึงประสานศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ประเมินพัฒนาการเด็กและส่งเด็กเข้าเรียนโรงเรียนเฉพาะด้าน เพื่อให้เด็กสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาวต่อไป
ถามว่าพม.มีแนวทางช่วยเหลือเรื่องเงินสะสมที่ได้จากเบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการที่หายไปไหม นายสมคิดกล่าวว่า เบื้องต้นจะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุจังหวัด ซึ่งมีกองทุนผู้สูงอายุคอยช่วยเหลือ ซึ่งน่าจะช่วยเหลือเรื่องเงินที่หายไปได้ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ดี ในระยะยาว หากนายแพนและภรรยาดูแลตัวเองไม่ไหว เรายังเตรียมพิจารณานำนายแพนและภรรยามาดูแลในศูนย์บริการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูง ส่วนหลานสาวพยายามจะส่งศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ได้รับการศึกษาและดูแลตัวเองได้ในอนาคตต่อไป
ขอบคุณภาพจากกรมกิจการผู้สูงอายุ
