เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยระหว่างมอบแนวทางปฏิบัติงานจัดระเบียบสังคมรอบสถาบันการศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล มุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติดและความเดือดร้อนของประชาชน แต่ยังพบว่ารอบสถาบันการศึกษาเป็นทั้งแหล่งมั่วสุมและจุดเสี่ยงต่อนักศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และรอบมหาวิทยาลัยในย่านรังสิต ฯลฯ จึงมีเป้าหมายต้องทำต่อเนื่อง เด็ดขาด จริงจัง
“สำหรับแนวทางมี 7 ด้านคือ 1.ปราบปรามยาเสพติด ให้มีการสำรวจผู้ค้า-ผู้เสพยาเสพติด จัดให้มีการบำบัด จัดกิจกรรมสร้างความรู้และการป้องกันในเรื่องยาเสพติด รวมถึงให้มีการควบคุมร้านขายยาในการจำหน่ายยาบางประเภท 2.หอพัก กทม.พยายามจัดให้มี พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ.2558 โดยให้มีการขึ้นทะเบียนหอพัก และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ให้มีการตรวจตราหอพัก โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด อาชญากรรม และอบายมุขต่างๆ ทั้งนี้ จะมี พ.ร.บ.การป้องกันแก้ไขปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 เพื่อแก้ไปพร้อมกัน 3.สถานบริการ-สถานบันเทิง ยึดถือตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ซึ่งพบว่าบริเวณรอบสถาบันการศึกษาได้มีการเปลี่ยนแปลงจากสถานบันเทิงเป็นอย่างอื่นมากกว่าร้อยละ 80 แต่ยังพบร้านจำหน่ายสุราพยายามเปลี่ยนป้ายร้านค้าให้เป็นร้านนม 4.ร้านเกม-ร้านอินเตอร์เน็ต ควบคุมให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.วิดีทัศน์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 5.การพนัน สำรวจว่ารอบมหาวิทยาลัยมีการลักลอบเล่นการพนัน เช่น โต๊ะสนุกเกอร์ พนันบอล ตู้เกม ฯลฯ หรือไม่ 6.สุรา ยาดอง เหล้าปั่น และบารากุ ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.สุรา ซึ่งยังคงพบมีการให้บริการบารากุในบางพื้นที่ และ 7.การคุมประพฤติสถาบันการศึกษาให้เหมาะสม เช่น เด็กแว้น เด็กตีกัน” พญ.วันทนีย์กล่าว และว่า ปัญหานี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ปกครองจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
