ลุ้น ‘สธ.’ ชงคลายล็อกเพิ่ม หลังผู้ป่วยโควิด ส่อลดลง

REUTERS

ลุ้น ‘สธ.’ ชงคลายล็อกเพิ่ม หลังผู้ป่วยโควิด ส่อลดลง

วันที่ 15 มกราคม กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ประเมินยอดผู้ป่วยโควิดรอบ 14 วันหลังปีใหม่ อยู่ระดับทรงตัว ไม่ได้เพิ่มมากเป็นหมื่นรายต่อวันตามที่คาดกันไว้ อีกทั้งมีแนวโน้มลดลง ดังนั้น จะรอดูสถานการณ์อีกระยะหากมีแนวโน้มดีขึ้น จะมีการเสนอให้คลายล็อกมาตรการต่างๆ เพิ่มเติม

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อม นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีกรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย

นายอนุทิน กล่าวว่า แม้ว่าตั้งแต่ปีใหม่จนถึงวันนี้ พบผู้ติดเชื้อจำนวนเพิ่มขึ้น มีสายพันธุ์โอมิครอนเข้ามาระบาดในประเทศ จำนวนผู้ป่วยอาการหนักที่ต้องใช้เตียงไอซียู เครื่องหายใจแสดงถึงความรุนแรงของโรคที่ไม่เพิ่มมากขึ้น โดยผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละไม่เกิน 20 ราย ถือว่าอยู่ในขาลง หากประกอบข้อมูลการศึกษาจากสถาบันต่างๆ ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ค่อนข้างไปในแนวเดียวกันว่า โอมิครอน แม้จะติดเชื้อได้ง่าย แต่ความรุนแรงไม่เท่ากับเดลต้า

“หากสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว สธ.จะเร่งเสนอ ศบค.ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้มากและเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะเดียวกัน หากมีเหตุอันตรายต่อประชาชน สธ.ก็พร้อมจะชี้แจง เสนอมาตรการเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก”นายอนุทินกล่าวและว่า ขอให้คำยืนยันว่า เราทุไม่เคยมีความประมาท หรือลดหย่อนการทำงานแม้สถานการณ์จะดีขึ้น ตรงกันข้ามคือ เราเตรียมพร้อมตลอดเวลา แม้ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หากสิ่งที่เราเตรียมจะเก้อ ก็เป็นสิ่งที่ดี ที่เราไม่ต้องใช้

Advertisement

นายอนุทินกล่าวว่า ตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมา มองแนวโน้มการระบาดของเชื้อโอมิครอน เชื่อว่าในที่สุดแล้วจะเป็นสายพันธุ์ที่มาแพร่กระจายเหมือนเชื้อเดลต้า หากเราดูแลสถานการณ์เชื้อเดลต้าได้ เชื้อโอมิครอนก็ไม่น่ามีปัญหา

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า แนวโน้มการติดเชื้อในประเทศใน 14 วันที่ผ่านมา พบว่าช่วงสัปดาห์แรกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ขณะนี้ทรงตัว มีแนวโน้มทรงต่อไปและค่อยๆ ลดลง ส่วนผู้ป่วยหนักมีแนวโน้มลดลงมาตลอด ส่วนผู้ใส่ท่อช่วยหายใจที่ป่วยหนักมากลดลงต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตามการคาดการณ์ฉากทัศน์การระบาดระลอกเดือนมกราคม ช่วงแรกการระบาดรวดเร็วเป็นไปตามเส้นสีเทา คือหากมาตรการไม่ได้ผลจะทำให้พบติดเชื้อวันละ 3 หมื่นราย ซึ่งอยากให้อยู่ในเส้นสีเขียวที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย แต่ด้วยเชื้อโอมิครอนที่ระบาดเร็ว ทำให้ช่วงแรกพบติดเชื้อไปในเส้นสีเทา แต่ด้วยความร่วมมือประชาชนดี ระวังมากขึ้น ทำให้การระบาดคงที่และมาแตะที่เส้นสีส้ม คืออยู่ในระดับปานกลาง

“หากการติดเชื้อยังทรงตัวเช่นนี้ต่อเนื่อง จะลดลงไปถึงเส้นสีเขียวโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม โรครุนแรงน้อยลง คนมีภูมิต้านทานมากขึ้น ทำให้อัตราเสียชีวิตลดลงเช่นกัน และสามารถอยู่กับโรคได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น” นพ.เกียรติภูมิกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image