อึ้งกันแล้วแมวเมืองนอกใช้ชื่อโคราชแต่หัวกลมป๊อกหน้าแบนดั้งหักเจอคล้าย”ศุภลักษณ์”2 ตัว

ชูชัย วิเศษจินดาวัฒน์ ประธานชมรมอนุรักษ์แมวโคราช กับแมวโคราชพันธุ์ไทยโบราณแท้ๆ

@ พบแค่2คล้ายแมว”ศุภลักษณ์”

กรณีสมาคมแมวไทยโบราณนานาชาติได้ออกมาเปิดเผยเรื่อง แมวไทยโบราณ 5 ชนิด คือ ขาวมณี โคราช โกนจา วิเชียรมาศ และศุภลักษณ์ โดยที่ 4 ใน 5 ถูกต่างชาติ คือ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา นำเอา ขาวมณี โคราช โกนจา และวิเชียรมาศ ไปขึ้นทะเบียนเป็นแมวของตัวเองไปแล้ว เหลือเฉพาะศุภลักษณ์เท่านั้นยังไม่ขึ้นทะเบียน เพราะหายากมาก ทางสมาคมพยายามหาแมวศุภลักษณ์ ได้รับการรับรองสายพันธุ์ ให้ครบ 200 ตัว หลังจากนั้นจะนำไปขึ้นทะเบียนกับสมาคมแมวโลก ขณะนี้สมาคมรวบรวมได้แล้ว 40 ตัวนั้น

Advertisement

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม น.ส.พนารัตน์ คำฉัตร ผู้จัดการสมาคมแมวไทยโบราณนานาชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า ภายหลังจากเรื่องแมวไทยปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมา 2-3 วัน และทางสมาคมแมวไทยโบราณนานาชาติได้ขอความร่วมมือไปยังคนไทยทั่วประเทศที่เลี้ยงแมว ช่วยส่งรูปแมวสงสัยว่าเป็นแมวศุภลักษณ์ คือมีลักษณะขนสีทองแดงเสมอทั้งตัว ไม่มีแต้มเข้มบริเวณหน้า หาง ขา และอวัยวะเพศ รูปร่างได้สัดส่วน มีหนวดสีทองแดง ตาสีเหลืองอำพัน และอุ้งตีนสีชมพูอมส้มนั้น มีประชาชนทยอยส่งรูปแมวของตัวเองมาให้ตรวจสอบแล้วกว่า 50 ตัว พบว่าเข้าข่ายแมวศุภลักษณ์เพียง 2 ตัวเท่านั้น สมาคมจะพยายามหาต่อไป จนกว่าจะครบ 200 ตัว

@ ชี้พันธุ์”โคราช”ไม่เหมือนตปท.

“เวลานี้ยังมีหลายคนกังขาเรื่องของการจดสิทธิบัตรกับการขึ้นทะเบียน แย้งว่าต่างชาติไม่สามารถจดสิทธิบัตรแมวไทยได้ ขออธิบายว่าระบบการจัดการเรื่องชนิดพันธุ์ของแมวทั่วโลกนั้น มีองค์กรแมวโลกเป็นองค์กรใหญ่ และมีอิทธิพลค่อนข้างสูง ประเทศต่างๆ สามารถรวบรวมแมวในชนิดพันธุ์เดียวกันได้ 200 ตัวขึ้นไป ระบุสายพันธุ์ ที่มาที่ไปชัดเจน ก็สามารถนำไปขึ้นทะเบียน ระบุว่าเป็นแมวของเขา เช่น แมวโคราช เวลานี้เป็นแมวไทยโบราณคนทั่วโลกเลี้ยงกันมากที่สุดในโลก แต่ถูกประเทศสหรัฐนำไปขึ้นทะเบียนกับสมาคมแมวโลกแล้วว่าเป็นแมวของเขา ถึงแม้ว่าจะยังมีชื่อว่าแมวโคราชอยู่ แต่ลักษณะเดิมแห่งความเป็นแมวโคราชตามลักษณะแมวไทยคือ ขนสั้นสีเทาเงิน รูปร่างและขาได้สัดส่วนตีนรูปไข่ หน้าผากมีรอยหยักคล้ายรูปหัวใจ หูตั้งตาสีเหลือง หรือเหลืองอมเขียว 2 ชั้น จมูกมีสัน ปราดเปรียว แต่เวลานี้ แมวโคราชที่เป็นสากล หรือที่สมาคมแมวโลก ไม่ใช่ลักษณะแบบนี้ แต่จะเป็นแมวหัวกลมหน้าแบน ดั้งหักๆ ตาโตสีเขียวชั้นเดียว” น.ส.พนารัตน์กล่าว

Advertisement

@ หวั่นประกวดเป็นแมวบ้านนอก

น.ส.พนารัตน์กล่าวว่า ถามว่าเป็นเช่นนี้ประเทศไทยจะมีผลเสียอย่างไร ตอบว่าเป็นผลเสียหายมาก เพราะวงการแมวนอกจากเลี้ยงดูด้วยความรักแล้ว จะมีการซื้อขาย และการประกวดเป็นหลัก แน่นอนว่าจะมีคนจำนวนมากหาแมวได้รับการรับรอง หรือได้รับรางวัลจากการประกวด แน่นอนว่าแมวไทยโดยเฉพาะแมวโคราชที่เป็นโคราชแท้ๆ ดั้งเดิม ลักษณะงดงามครบถ้วนแห่งความเป็นแมวโคราชทุกประการในความเป็นไทย แต่เมื่อส่งไปในเวทีประกวด แมวตัวนั้นจะกลายเป็นแมวบ้านนอกไปทันที เพราะลักษณะไม่เป็นไปตามสากลกำหนด

“มันเป็นความเจ็บปวดตรงที่เราเป็นเจ้าของแท้ๆ เราควรจะเป็นผู้กำหนดลักษณะของเราเอง แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้เลย อยู่ภายในประเทศ เราก็ยอมรับกันภายในประเทศ ขึ้นทะเบียนตามลักษณะสายพันธุ์กันในประเทศมีกฎหมายเราคุ้มครองดูแลก็จริง แต่เมื่อเอาออกไปนอกประเทศ เราจะพบกับความเจ็บปวดทันที” ผู้จัดการสมาคมแมวไทยโบราณนานาชาติกล่าว

น.ส.พนารัตน์กล่าวว่า สำหรับศุภลักษณ์เป็นความหวังเดียวของคนไทยเวลานี้ แม้จะค่อนข้างยากจะรวบรวมให้ได้ครบทั้ง 200 ตัว แต่ทางสมาคมก็ไม่ย่อท้อ เพราะหากไม่ทำ ต่างชาติอาจจะเอาไปขึ้นทะเบียนอีกก็ได้ อยากให้หน่วยราชการได้เข้ามาช่วยเหลือดำเนินการในเรื่องนี้ควบคู่ไปด้วย อาจจะทำให้การดำเนินการเรื่องนี้สำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น

@ เชื่อหา”ศุภลักษณ์”ครบ 200

นายปรีชา วัฒนา เจ้าของฟาร์มแมว เขตบางรัก กรุงเทพฯ กล่าวว่า ตนและทางสมาคมแมวไทยโบราณนานาชาติทำงานร่วมกันมานาน ร่วมกันผลักดันให้แมวศุภลักษณ์ได้รับการขึ้นทะเบียนในฐานะแมวไทยในสมาคมแมวโลก การจะรวบรวมแมวศุภลักษณ์ให้ได้ 200 ตัวนั้นทำได้แน่นอน แต่ต้องใช้เวลา เชื่อว่าเวลานี้แมวศุภลักษณ์มีอยู่ แต่กระจัดกระจาย และคนไม่รู้จัก ที่ผ่านมามีคนเข้าใจผิดอยู่หลายคนว่าแมวของตัวเองเป็นแมวศุภลักษณ์ แต่เมื่อพิสูจน์ตรวจสอบแล้วกลายเป็นพันธุ์เบอร์มิส มีสีน้ำตาลแต้ม และอุ้งตีนเป็นสีเปลือกมังคุดสุกงอม หรือม่วงอมดำ แต่ดูเผินๆ จะคล้ายกับศุภลักษณ์มาก เบอร์มิสนั้นประเทศสหรัฐอเมริกาเอาไปขึ้นทะเบียนแล้ว

“ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าในตลาดร้านรวงทั่วไป อาจจะมีศุภลักษณ์อยู่ แต่เราไม่รู้ เจอแมวที่มีสีทองแดงตลอดทั้งตัว ลองถ่ายรูปส่งมาให้ดูทางไลน์ ไอดี Preecha 92 หรือสมาคมแมวไทยโบราณนานาชาติตรวจสอบดูว่าใช่ศุภลักษณ์หรือไม่” นายปรีชากล่าว

ศุภลักษณ์1

เมื่อถามว่า เวลานี้ฟาร์มแมวมีแมวศุภลักษณ์อยู่กี่ตัว นายปรีชากล่าวว่า มี 9 ตัว พร้อมจะเป็นพ่อแม่พันธุ์ 6 ตัวกำลังจะให้ลูก เป็น 9 ใน 40 ตัว ขึ้นทะเบียนกับสมาคมแมวไทยโบราณนานาชาติแล้ว คาดว่า 6 ตัว กำลังให้ลูกนั้น จะได้ลูกครอกละ 4 ตัว รวมแล้วน่าจะได้แมวศุภลักษ์เพิ่มมาอีก 24 ตัว แม่แมวจะตั้งท้องประมาณ 64 วัน และหลังจากคลอดลูก 2 สัปดาห์ ก็สามารถผสมพันธุ์ใหม่ได้ทันที แต่ในฟาร์มแมวทั่วไปจะให้แม่พันธุ์ให้ลูก 5 เดือน ต่อ 1 ครอกเท่านั้น แม่แมวจะไม่โทรมจนเกินไปโดยทั่วไปแล้วแมวศุภลักษณ์จะมีการซื้อขายกันในตลาดแมวราคา อยู่ที่ 30,000 บาท

@ ปธ.ชมรมแมวโคราชแจง

ที่ชมรมอนุรักษ์แมวโคราช ตั้งอยู่เลขที่ 53 หมู่ที่ 10 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นายชูชัย วิเศษจินดาวัฒน์ ประธานชมรมอนุรักษ์แมวโคราช เมืองพิมาย เปิดเผยว่า เรื่องต่างประเทศพยายามจะนำสายพันธุ์แมวโคราช ไปขึ้นทะเบียนกับสมาคมแมวโลกนั้น ตนทราบมานานแล้ว ไม่ใช่การจดสิทธิบัตรสายพันธุ์แมว เนื่องจากแมวโคราช หรือที่เรียกอีกหลายชื่อ เช่น แมวสีสวาด แมวมาเลศและแมวดอกเลา เป็นแมวสายพันธุ์พื้นเมืองของไทย มีต้นกำเนิดใน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เพราะมีการจดบันทึกในสมุดข่อยโบราณมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา หรือกว่า 300 ปีมาแล้ว โดยมีใจความว่า

วิลามาเลศพื้น พรรณกาย

ขนดังดอกเลาราย เรียบร้อย

โคนขนเมฆมอปลาย ปลอมเสวตร

ตาดั่งน้ำค้างย้อย หยาดต้องสัตบง

@ ยันต่างชาติจดทะเบียนไม่ได้

มีความหมายว่า มาเลศ คือแมวโคราช พื้นพรรณกาย คือเป็นสีเดียว ขนดังดอกเลารายเรียบร้อย คือขนต้องเป็นสีดอกเลาและสั้น โคนขนเมฆมอปลายปลอมเสวตร คือโคนขนต้องเป็นสีเมฆ ปลายขนต้องเป็นสีเงิน ตาดั่งน้ำค้างย้อยหยาดต้องสัตบง คือ ตาต้องเป็นสีเขียวอ่อน และกลม ดังนั้น จึงถือว่าแมวโคราชสายพันธุ์แท้ต้องมีลักษณะนี้ หากมีลักษณะอื่นปนถือว่าไม่ใช่แมวโคราช เมื่อต่างชาตินำไปผสมข้ามสายพันธุ์ แล้วเรียกว่า KORAT CAT จึงไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าจะนำไปจดทะเบียนสายพันธุ์กับสมาคมแมวโลกแล้วก็ตาม ก็ควรเปลี่ยนชื่อไปเป็นสายพันธุ์อื่นที่ไม่ใช่แมวโคราช

@ ห่วงพันธุ์”ศุภลักษณ์”หายาก

นายชูชัยกล่าวว่า สำหรับสายพันธุ์แมวโคราชแท้จริงนั้น สามารถหาดูได้ที่ชมรมอนุรักษ์แมวโคราช อ.พิมาย ทางชมรมได้พยายามอนุรักษ์สายพันธุ์ดั้งเดิมไว้ให้มีลักษณะเหมือนกับบันทึกไว้ในสมุดข่อยทุกประการ ปัจจุบันมีแมวโคราชชมรมเพาะพันธุ์เลี้ยงไว้ 38 ตัว ขณะนี้ตกลูกมาใหม่ 1 ครอก จากพ่อชื่อ นิสัยดี แม่ชื่อ ยักษ์ คอกนี้มีอยู่ 4 ตัว เป็นเพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 3 ตัว อายุได้ 1 เดือน มีคนรักแมวมาติดต่อซื้อไปเลี้ยงเป็นจำนวนมาก จนเพาะพันธุ์ไม่ทัน ผู้ซื้อไปแล้วก็จะได้รับใบรับรองสายพันธุ์จากชมรม และทางชมรมก็จะพยายามติดต่อกลุ่มคนเลี้ยงแมวโคราชในจังหวัดเดียวกัน ให้รู้จักกันไว้ เพื่อจะได้นำไปผสมพันธุ์กันเป็นการอนุรักษ์สายพันธุ์ไว้อีกด้วย ตอนนี้คาดว่ามีแมวโคราชสายพันธุ์แท้ๆ อยู่ในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัว แต่ไม่เกิน 2,000 ตัวแน่นอน

นายชูชัยกล่าวว่า ส่วนในต่างประเทศ คาดว่าจะมีอยู่จำนวนมาก เพราะมีการเพาะพันธุ์ขายกันมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2502 ส่วนของไทยนั้นเพิ่งมาเพาะพันธุ์กันอย่างจริงจังเมื่อปี 2538 แต่คนรักแมวไม่ต้องเป็นห่วง เพราะต่างประเทศนำไปเพาะสายพันธุ์ก็เรียกว่าแมวโคราช จึงทำให้ขณะนี้ต่างประเทศไม่สามารถจดสิทธิบัตรสายพันธุ์แมวโคราชได้ เนื่องจากสมาคมแมวโลกได้ให้การยอมรับว่าแมวโคราช เป็นแมวพื้นเมืองของประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้จะเป็นห่วงก็เฉพาะแมวศุภลักษ์เท่านั้น เหลืออยู่น้อยมาก กว่าจะรวบรวมสายพันธุ์แมวศุภลักษ์ให้ได้ 200 ตัว จึงเป็นเรื่องยากมาก” นายชูชัยกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image