นทท.แห่ไหลเรือไฟโบราณ บูชาพญานาค ถวายเป็นพระราชกุศล งดประเพณีใหญ่ถวายอาลัย

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในการประกอบพิธีไหลเรือไฟโบราณ ตามประเพณีดั้งเดิมของชาว จ.นครพนม โดยในปีนี้ได้งดการจัดงานออกพรรษาไหลเรือไฟ และงานกาชาดประจำปี 2559 ซึ่งกำหนดจัดในช่วงระหว่างวันที่ 9 -17 ตุลาคม รวมถึงกิจกรรมไฮไลต์ของงานคือการประกวดไหลเรือไฟที่ยิ่งใหญ่ ในคืนวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 เพื่อถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ แสดงออกถึงความจงรักภักดี แต่ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการสืบสานจัดงานประเพณีไหลเรือไฟโบราณ แทนการไหลเรือไฟประยุกต์ขนาดใหญ่ ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อรักษาประเพณีสำคัญของ จ.นครพนม ที่สำคัญยังเป็นการไหลเรือไฟโบราณเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึงบูชาพญานาค รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ น้อมจิตอธิษฐาน ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ชมวิถีชีวิต ความเป็นมาของเรือไฟในอดีต ก่อนการพัฒนามาเป็นเรือไฟประยุกต์ ซึ่งทางจังหวัดนครพนมได้คงอนุรักษ์สืบสานจากอดีตถึงปัจจุบัน สร้างความประทับใจให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้เดินทางมาร่วมประกอบพิธี

นอกจากนี้ยังเป็นการรำลึกถึงประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่ภาคอีสาน รวมถึง จ.นครพนม ที่สำคัญได้มาประทับแรม ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมหลังเก่า ริมถนนสุนทรวิจิตร ริมแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2498 พร้อมได้ทรงทอดพระเนตรงานประเพณีไหลเรือไฟเป็นครั้งแรก ถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของพสกนิกรชาว จ.นครพนม

ด้านนางสราลี คลีล้วน อายุ 52 ปี ประธานชุมชนวัดโอกาส เทศบาลเมืองนครพนม ในฐานะตัวแทนชุมชนที่จัดสร้างเรือไฟโบราณ กล่าวว่า สำหรับปีนี้ถึงจะมีการงดการประกวดไหลเรือไฟประยุกต์ที่จัดสืบทอดมาทุกปี แต่ชาว จ.นครพนม ยังคงภาคภูมิใจที่ได้ร่วมแสดงออกถึงการไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ แสดงออกถึงความจงรักภักดี ทั้งนี้ได้ปรับเปลี่ยนมาทำพิธีไหลเรือไฟโบราณแทน ซึ่งถือเป็นประเพณีที่สำคัญสืบทอดมาแต่โบราณ โดยมีการจัดทำเรือไฟจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ตามแบบวิถีชีวิตในอดีต ซึ่งจะถูกสร้างขึ้นจากไม้ไผ่ ประดิษฐ์ให้เป็นลักษณะลำเรือ และใช้ต้นกล้วยเพื่อเป็นฐานให้สามารถลอยน้ำได้ ตามแบบวิถีภูมิปัญญาชาวบ้าน พร้อมจัดให้มีเครื่องสักการบูชา ดอกไม้ธูปเทียน รวมถึงอาหารคาวหวาน จัดลงในเรือตามประเพณี ก่อนร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานขอพร และนำไปไหลในแม่น้ำโขง เชื่อกันว่า เป็นการบูชาพระพุทธเจ้า รวมถึงองค์พญานาค และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลปกปักรักษาแม่น้ำโขง ในวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งถือเป็นการนำเอาสิ่งไม่ดีไหลลอยไปกับน้ำโขง เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้รับแต่สิริมงคล หากใครได้ร่วมไหลเรือไฟโบราณ จะมีแต่ความสุข ความเจริญ ได้โชคลาภเจริญรุ่งเรือง และทุกปีชาวชุมชนคุ้มวัดจะทำเรือไฟโบราณมาร่วมไหลตามประเพณี แต่ประชาชน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หันไปชมประกวดเรือไฟประยุกต์ ในปีนี้เป็นโอกาสดี จะได้ร่วมสืบสานประเพณี และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวงของชาวไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image