วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่สถานที่ก่อสร้าง บริเวณคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานพิธีตอกเสาเข็มปฐมฤกษ์ โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) และประตูระบายน้ำ คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองถนน คลองสอง และคลองบางซื่อ จากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า-รามคำแหง ไปทางประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ เพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการ ในจุดที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างและบ้านเรือนรุกล้ำ ซึ่งมีระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของโครงการ จากนั้นจะดำเนินการต่อเนื่องในชุมชนที่เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ต่อไป
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า กทม.ดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.และประตูระบายน้ำคลองลาดพร้าว-คลองสอง ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยกำหนดแนวเขตก่อสร้างในพื้นที่โครงการในระยะ 25-38 เมตร ตามสภาพของคลองตามธรรมชาติเดิมก่อนถูกรุกล้ำ โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพในการระบายน้ำเป็นสำคัญ พร้อมทั้งได้เตรียมแผนงาน 3 ด้านในการดำเนินการควบคู่กันไป ได้แก่ แผนการก่อสร้าง แผนการจัดหาที่อยู่อาศัย และแผนการประชาสัมพันธ์ สำหรับแผนการก่อสร้างนั้น กทม.ได้ลงนามในสัญญาจ้างกับบริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด ให้ก่อสร้างเขื่อนโดยมีเนื้องานก่อสร้างความยาว 2 ฝั่งคลอง 45,300 เมตร ระยะเวลาก่อสร้าง 1,260 วัน นับตั้งแต่ลงนามในสัญญาหรือประมาณเดือนมิถุนายน 2562 วงเงิน 1,645 ล้านบาท และเนื่องจากการพัฒนาคลองลาดพร้าวจำเป็นต้องดำเนินการพร้อมกันในหลายด้าน ทั้งงานก่อสร้าง การจัดหาที่อยู่อาศัย และการประชาสัมพันธ์ การดำเนินงานจึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพบก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมธนารักษ์ กรมชลประทาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ระยะแรกจะเริ่มก่อสร้าง 8 กม. ใช้เวลา 8-10 เดือน และจะทยอยก่อสร้างตามพื้นที่ที่ประชาชนผู้รุกล้ำย้ายออก เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนงานจะช่วยเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำฝนและการระบายน้ำได้มากขึ้นกว่าร้อยละ 80 หรืออีกกว่าเท่าตัว อีกทั้งทำให้ง่ายต่อการขุดลอกทำความสะอาดคลองเพื่อเปิดทางน้ำไหล ป้องกันการทรุดตัวของตลิ่ง 2 ฝั่งคลอง และแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในคลองรวมถึงทัศนียภาพและสิ่งแวดล้อม 2 ฝั่งคลองให้ดีขึ้น และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ 8 เขต ประกอบด้วย ได้แก่ เขตดอนเมือง สายไหม หลักสี่ บางเขน จตุจักร ลาดพร้าว ห้วยขวาง และวังทองหลาง ต่อเนื่องไปยัง จ.ปทุมธานีแล้ว ยังสามารถใช้เป็นเส้นทางสัญจรและทางจักรยาน เพิ่มทางเลือกในการเดินทางเชื่อมสู่ระบบขนส่งมวลชน ล้อ ราง เรือ ในปัจจุบันและอนาคตได้สะดวกยิ่งขึ้น ต่อยอดเพื่อเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำและเป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำคลองสาธารณะและการจัดระเบียบชุมชนแออัดให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
