ม็อบทัวร์ ลั่น ‘มาสันติ แต่เจ็บตัว’ โวย ปล่อยมือที่สาม ตำรวจไม่ห้ามปราม
เมื่อวันที่ 22 เมษายน ในวาระครบรอบ 240 ปี เกาะรัตนโกสินทร์ กลุ่มมังกรปฏิวัติ นัดหมายทำกิจกรรม นำทัวร์เส้นทางสายประวัติศาสตร์ ฝ่ายซ้าย ไหว้พระทำบุญ ขอพร และขอคู่ชีวิตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. พร้อมกำหนดราคา 12 บาท ตลอดทริป
อ่านข่าว : ม็อบปวศ.ฝ่ายซ้ายวุ่น! ตร.สกัด ล้อมซอยสำราญราษฎร์ มีผู้บาดเจ็บ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เวลา 17.52 น. ที่หน้าหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศเตือนผู้ชุมนุมครั้งที่ 3 ว่าให้กลับที่พัก ณ เวลานี้ หากไม่กลับถือว่าผิดคำสั่งเจ้าพนักงาน เพราะนี่คือพื้นที่ราบที่ 2
“ประกาศเตือนครั้งสุดท้ายก่อนทำการจับกุมตามกฎหมาย หากปรากฏว่าท่านยังอยู่ที่นี่ ถือว่าท่านขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และขัดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว โดยผู้ชุมนุมบางส่วนทยอยเดินกลับไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ต่อมา เวลา 17.55 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินกวาดต้อนผู้ชุมนุมไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยเมื่อถึงซอยดำเนินกลางใต้ ผู้ชุมนุมเปล่งเสียงบอกกันว่าให้ลงถนน และข้ามฝั่ง มุ่งหน้าไปยืนรวมตัวรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนประจำการหน้าซอยดำเนินกลางใต้ พร้อมรถกระบะควบคุมมวลชนกว่า 5 คัน และกำลังจำนวนมาก
กระทั่งเวลา 18.00 น. แกนนำกลุ่มมังกรปฏิวัติกล่าวเรียกมวลชนวัยรุ่นที่เดินข้ามไปยังซอยดำเนินกลางใต้ให้หยุดปะทะวาจากับชายไม่ทราบฝ่าย ซึ่งเข้ามาต่อว่าผู้ชุมนุมด้วยถ้อยคำเดิมอย่างต่อเนื่อง ว่า “มาเรียกร้องอะไร ไม่สมควร” ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนตะโกนตอบกลับ บางส่วนกล่าวห้ามและขอให้ออกมา
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบเข้ามาห้ามสถานการณ์ กระทั่งผู้ชุมนุมบางส่วนเดินเข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ก่อนร่วมกันเดินต้อนชายไม่ทราบฝ่ายกลับไปยังซอยดำเนินกลางใต้
ผู้ชุมนุมชายบางรายกล่าวว่า อย่าไปหลงกล ระวังโดนยั่วยุ เราจะไม่ตามเกมตำรวจและไม่ตามเกมมือที่ 3 ก่อนส่งเสียงเรียกให้กลับมาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
เวลา 18.06 น. แกนนำชายกลุ่มมังกรปฏิวัติกล่าวว่า ถ้ามีตำรวจจะมาดำเนินการเราในเขตอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็ให้รู้ไปว่าเหยียบย่ำประชาธิปไตย เราจะยืนยันในหลักการ 3 นิ้วของเราสะท้อนถึงสันติภาพ เสรีภาพ และภราดรภาพ เราตั้งใจมาอย่างสันติ แต่เราโดนทำร้าย แถมยังปล่อยมือที่สามเข้ามาโดยไม่ปกป้องพวกเรา
“ขอย้ำจุดยืนว่า ที่เรามาเดินร่วมกันในวันนี้เพราะต้องการทบทวนประวัติศาสตร์ ว่าสถานที่ในกรุงเทพฯ มีที่ใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับราษฎร เกี่ยวกับการพัฒนาประเทศ และอะไรบ้างที่ถูกลบเลือนจากบทเรียน อะไรบ้างที่ผู้มีอำนาจไม่ยอมให้เราได้ศึกษาเรียนรู้ ได้อภิปรายร่วมกัน การที่อำนาจในสังคมกำลังปิดหูปิดตาประชาชน สะท้อนให้เห็นแล้วว่า
1.ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ประชาชนจะแสวงหาเสรีภาพ ไม่ว่าจะจำคุกพวกเรากี่คน อุดมการณ์ของเราจะไม่ถูกจับกุม จะไม่ถูกจองจำด้วย แม้ว่าหลายคนจะถูกขังในเรือนจำ แต่วันหนึ่งเพื่อนของเราจะต้องได้รับความเป็นธรรมและออกมาอย่างแน่นอน 2.เป็นสิ่งชัดเจนแล้วว่า วันนี้ตำรวจไม่ได้รักษาประชาชน สิ่งสุดท้ายคือ 3.การคุกคามเสรีภาพประชาชน
ด้านแกนนำหญิงกล่าวว่า พี่น้องเรายังไม่ได้ออกมา เราจะจัดกิจกรรมต่อไป ไม่ว่าจะถูกกระทำอย่างไรก็ตาม ขอให้รู้ไว้ว่าเราไม่เคยท้อและไม่เคยหยุด ระบบที่เหยียบ เราไม่เอา
“ไม่ว่าจะโดนคุกคามอย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่าอุดมการณ์เราอยู่ตรงนี้ ยังมีลูก มีหลานที่จะสืบสานอุดมการณ์ อย่างไรก็หนีไม่พ้น” แกนนำหญิงกล่าว
ก่อนประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 18.11 น. และขอให้ผู้ชุมนุมระวังตัว พร้อมรอส่งผู้ชุมนุมกลับ
อย่างไรก็ดี เมื่อเวลา 18.19 น. กลุ่มทะลุแก๊ซ และผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งได้เดินทางมาสมทบเพิ่มเติม จึงย้ายมารวมตัวที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตรึงกำลังแน่นหนารอบถนนราชดำเนิน
แกนนำหญิงกลุ่มมังกรปฏิวัติกล่าวว่า ขอให้ผู้ชุมนุมที่ไม่พร้อมเดินทางกลับบ้าน เนื่องจากไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
บรรยากาศเวลา 18.50 น. สถานการณ์ยังคงเรียบร้อยดี ผู้ชุมนุมทยอยเดินมาทางรวมตัวกว่า 100 คน โดยนั่งพักผ่อนและพูดคุย ด้าน นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า เดินทางมาขายสินค้าและร่วมชุมนุมด้วย
นางวรวรรณกล่าวว่า เราเน้นออกมาเรียกร้องเรื่อยๆ เพราะถ้าล้ำเส้นก็จะถูกจับ
