ม็อบปวศ.ฝ่ายซ้ายวุ่น! ตร.สกัด ล้อมซอยสำราญราษฎร์ มีผู้บาดเจ็บ

ม็อบปวศ.ฝ่ายซ้ายวุ่น! ตร.สกัด ล้อมซอยสำราญราษฎร์ มีผู้บาดเจ็บ

เมื่อวันที่ 22 เมษายน ในวาระครบรอบ 240 ปี เกาะรัตนโกสินทร์ กลุ่มมังกรปฏิวัติ นัดหมายทำกิจกรรม นำทัวร์เส้นทางสายประวัติศาสตร์ ฝ่ายซ้าย ไหว้พระทำบุญ ขอพร และขอคู่ชีวิตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. พร้อมกำหนดราคา 12 บาท ตลอดทริป

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวลา 15.45 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ทยอยเดินทางมารอร่วมกิจกรรมกว่า 20 คน โดยนั่งพักที่บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สน.ชนะสงคราม สน.สำราญราษฎร์ และนอกเครื่องแบบจำนวนมาก เฝ้าสังเกตการณ์รอบบริเวณ

เวลา 16.09 น. แกนนำกลุ่มมังกรปฏิวัติ นำผู้ร่วมกิจกรรมย้ายไปตั้งหลักฝั่งเมธาวลัย เรสซิเดนซ์ โดยระบุว่าจะเคลื่อนขบวนในเวลา 16.15 น. แต่ยังไม่ประกาศจุดหมาย

“ไม่เคยมีการอธิบายประวัติศาสตร์ฝ่ายซ้าย เราจะบอกว่าตรงจุดไหน มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ประวัติศาสตร์จะต้องจดจำเราที่มาร่วมขบวนในวันนี้ด้วย ใครอยู่แถวนี้อยากมาร่วมทัวร์กับเรา สามารถมาได้” แกนนำหญิงกลุ่มมังกรปฏิวัติ กล่าว ก่อนเชิญชวนเจ้าหน้าที่สายสืบและลูกทัวร์ ให้ร่วมฟังข้อกฎหมายเพื่อป้องกันตัว โดยกำชับว่า ให้สายสืบฟังแล้วจำด้วย

Advertisement

ด้าน แกนนำชาย กล่าวว่า เราเห็นมาตลอดว่าตำรวจและสืบทำร้ายประชาชน วันนี้อยากเอาข้อกฎหมายพลเมืองเล็กๆ น้อยๆ มาบอก ตามกฎหมายอาญามาตรา 68 เราสามารถป้องกันตัวได้ หากภัยอันตรายอาจจะมาถึงตัว ดังนั้น หากมีตำรวจมาทำร้ายลูกทัวร์ เราสามารถป้องกันตัวได้ กฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้  เราจะใช้กฎหมายอาญามาตรา 68 ปกป้องเรา

เวลา 16.20 น. ที่หน้าเมธาวลัย เรสซิเดนซ์ แกนนำกลุ่มกล่าวว่า วันนี้เราจัดทัวร์แบบทัวร์จีน ก่อนเริ่มเดินไปยังจุดแรก มีการกล่าวอธิบายว่า ตรงนี้มีหลายเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ราษฎร ไม่ว่าจะ 6 ตุลาคม 2519 การปราบปรามผู้ชุมนุม รัฐใช้ความรุนแรงที่นี่ แต่เราไม่เคยมีการอธิบายว่า มีผู้สูญเสียเท่าไหร่ เหตุเกิดจากอะไร

Advertisement

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.24 น. เมื่อเดินมาถึง หน้าหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก ยกแผงเหล็กมาปิดกั้นขวางแนวถนนราชดำเนิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมได้สอบถามว่า จะปิดทางเพื่ออะไร เนื่องจากเป็นถนนของประชาชน ขณะที่เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบทำการบันทึกภาพกลุ่มผู้ชุมนุม โดยการจราจรบริเวณถนนราชดำเนินกลางเป็นอัมพาตกว่า 5 นาที ผู้ที่สัญจรบนถนนราชดำเนินต่างส่งเสียงบีบแตร ให้เจ้าหน้าที่เปิดทาง

แกนนำผู้จัดกล่าวกับผู้ชุมนุมว่า ไม่ต้องคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะคุยไปก็ไม่ได้อะไร ก่อนเดินกลับไปที่บริเวณหน้าหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน

แกนนำหญิง กล่าวต่อว่า จะเห็นว่าไม่ว่าผ่านไปกี่ปี ตำรวจก็ไม่เคยเห็นค่าประชาชน เราจะใช้เสียงของเราให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด เพราะตำรวจไม่เคยช่วยเราได้

ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ไม่สามารถเดินผ่านเข้าไปได้ เนื่องจากผิดปกติวิสัย

แกนนำหญิงกล่าวว่า เรากำลังทำให้เศรษฐกิจเดินไปข้างหน้า กำลังเปิดทัวร์ ทัวร์จีนต้องเข้าแล้ว แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ตอนนี้ตำรวจมาเยอะมาก เราอยากรู้ว่าทำผิดอะไร และอะไรที่เรียกว่าผิดปกติวิสัย เรายืนยันสิทธิของเรา จะไปต่อ ไม่หยุด เราต้องไปด้วยกัน คอยดูธงแดงเอาไว้ เรามาด้วยกัน เราไปด้วยกัน และเราจะกลับด้วยกัน

ด้านผู้ชุมนุมส่งเสียงยืนยันว่า จะเดินหน้าไปต่อ พร้อมกล่าวแซวเจ้าหน้าที่ว่า ที่ถ่ายรูปเพราะตนสวยใช่หรือไม่

จากนั้น เวลา 16.31 น. แกนนำประกาศเปลี่ยนเส้นทางแต่ยังคงเป้าหมายเดิม คือวัดสระเกศ โดยเดินย้อนกลับไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งถนนดินสอ และเริ่มทัวร์อีกครั้งในเวลา 16.35 น. ใช้เส้นทางถนนดินสอ โดยมีการบอกเล่าประวัติศาสตร์การสูญเสียของประชาชนเหตุการณ์ทางการเมืองขณะเดินเท้า

เวลา 16.40 น. ขบวนเคลื่อนไปยังด้านหลังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ มีประชาชนที่อยู่บริเวณเสาชิงช้า นำน้ำดื่มมาแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมกิจกรรมเพื่อดื่มคลายร้อน

ต่อมา เวลา 16.44 น. ขบวนเคลื่อนถึงวัดเทพธิดาราม เข้าใกล้เสาชิงช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่งเข้ามาสกัด และกล่าวกับผู้ชุมนุมว่า ถ้าเดินต่อจะทำการจับผู้ที่มีหมายอยู่ เนื่องจากจะผิดเงื่อนไขศาล โดยแกนนำส่งเสียงบอกผู้ชุมนุมว่า “ตำรวจขู่ว่าจะจับเรา”

กระทั่ง เวลา 16.49 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นาย สกัดกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณหน้าซอยสำราญราษฏร์ โดยใช้โล่ดันผู้ชุมนุม ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งตะโกนว่า ตำรวจถีบผู้หญิง

เวลา 16.52 น. แกนนำกล่าวว่า เพราะเราเห็นต่างใช่หรือไม่ ถึงกลายเป็นคนไม่ปกติ อย่างนั้นเราจะสันติวิธี เดินบนฟุตบาธ เราจะรอพี่น้องเราตรงนี้ แล้วเดินไปด้วยกัน ถ้าตำรวจทำร้ายแบบนี้ อย่ามาเรียกว่าพี่-น้อง

ด้าน เจ้าหน้าที่ กล่าวย้ำอีกครั้งว่า หากเดินหน้าไปต่อ จะจับกุม แกนนำจึงสอบถามผู้ชุมนุมว่า จะเดินหน้าต่อหรือไม่ ก่อนประกาศปักหลักบริเวณหน้าซอยสำราญราษฏร์ จนกว่าเจ้าหน้าที่จะเปิดทางให้ไปยังวัดสระเกศ

ต่อมา เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ถ้าหากไม่ถอยภายใน 5 นาที จะทำการจับกุมข้อหาฝ่าฝืนเจ้าพนักงาน

เวลา 17.07 น. สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่งเข้ามาล้อมหลังกลุ่ม ผู้ชุมนุม แกนนำกล่าวว่า ตำรวจบอกว่าถ้าอยู่ตรงนี้จะไม่จับเรา แต่ตอนนี้คืออะไร มาล้อมเรา

ทั้งนี้ แกนนำหญิงเกิดเป็นลม เนื่องจากมีโรคประจำตัว คือโรคหัวใจ ผู้ชุมนุมเร่งปฐมพยาบาลก่อนมีการประกาศว่า จะเคลื่อนย้ายไปยังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

เวลา 17.23 น. รถกู้ภัยปอเต็กตึ๊ง เข้ามารับแกนนำหญิง ไปยังโรงพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงรักษาการแน่นหนา ตลอดซอยสำราญราษฎร์

เวลา 17.26 น. มีการประกาศว่า 3 แกนนำทะลุวัง ได้รับการประกันตัวแล้ว จะมีผู้ชุมนุมเข้ามาสมทบที่ถนนราชดำเนินอีก โดยผู้ชุมนุมที่เหลือส่งเสียงเฮ บางส่วนทยอยไปรวมตัวที่ หน้าหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน

ต่อมา เวลา 17.36 น. ขณะที่ผู้ชุมนุมเดินเท้ากลับไปยังถนนราชดำเนิน ผู้ชุมนุมหญิงรายหนึ่ง ได้กล่าวต่อว่า นายอัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า ทำอะไรม่เคยสำเร็จ มีแต่หนี้

เวลา 17.39 น. นายแซม สาแมท หรือ อาร์ท นักเคลื่อนไหวไร้สัญชาติเข้ามาร่วมกิจกรรม โดยเปล่งเสียงขณะเดินเท้าว่า อยากมีสามี

ต่อมา เวลา 17.42 น. เมื่อขบวนเดินเท้ากลับมาถึงหน้าหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตั้งแนวสกัดไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนไปยังฝั่งถนนราชดำเนินนอก

แกนนำชาย กล่าวว่า เมื่อสักครู่ตำรวจใช้โล่กระแทกมวลชน มีการกระแทกเยาวชนและผู้ชุมนุมรายอื่นๆ อีก ทั้งที่ไม่มีอาวุธ มีผู้ชุมนุมบางคนโดนเหยียบ โดนเตะ ตำรวจไม่มีสัจจะแค่ไหน บอกว่าถ้าเราไม่เดินออกจากซอยสำราญราษฎร์ จะไม่จับเรา แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 2 นาทีก็ประกาศว่า จะจับผู้ชุมนุมในซอยทุกคน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image