พสกนิกรแน่นหน้าวัง เข้าแถวยาวกว่า 3 กม. รอเข้าถวายอาลัย

เวลา 08.04 น. ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวังเปิดให้พสกนิกรเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงเพื่อแสดงความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างเวลา 08.00-16.00 น. โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีพสกนิกรพร้อมใจใส่ชุดสีดำมานั่งต่อแถวรอก่อนเวลาเปิดให้เข้า ครั้นพอถึงเวลาประกอบกับเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ พสกนิกรจากทั่วประเทศยิ่งทยอยมาเข้าแถวจนยาวออกไปนอกพระบรมมหาราชวังที่ประตูวิเศษไชยศรี ถึงถนนหน้าพระธาตุ ไปหน้าวัดมหาธาตุ ก่อนวกกลับท้ายแถวอยู่ภายในสนามหลวงขึ้นไปทางทิศเหนือวกไปวนมา รวมระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้จัดแถวตอนเรียง 4 ทยอยเข้าเป็นชุดๆ เพื่อให้พสกนิกรได้เข้าอย่างทั่วถึง

นายนพพงษ์ ศรีมุข อายุ 43 ปี ชาว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เล่าทั้งถือพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในอ้อมกอด และมีใบหน้าเศร้าหมอง มายืนต่อแถวรอตั้งแต่เวลา 06.00 น. ได้เข้าถวายสักการะเวลา 09.00 น. ว่า พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นัดคิดนักพัฒนา จะเห็นได้ว่าองค์การยูเนสโกได้ประกาศยกย่องพระองค์ ยกย่องผลงานของพระองค์ เช่น กังหันน้ำชัยพัฒนา ที่ใช้ได้จริง ทั้งฟอกน้ำให้สะอาด ฟอกอากาศให้สดชื่น หรือจะหญ้าแฝก ที่ทรงแนะนำให้ปลูก เพราะจะช่วยให้หน้าดินไม่ชะล้างไปกับลมและฝน อย่างไรก็ดี ตนพยายามศึกษาโครงการพระราชดำริ แนวคำสอนของพระองค์ อย่างทุกวันนี้ที่น้อมนำมาปฏิบัติใช้อยู่คือ ทำวันนี้ให้ดี เพื่อวันข้างหน้าจะได้อยู่สบาย ก็ฝากถึงคนรุ่นหลังที่อาจไม่ทันเห็นการทรงงานและคำสอนของพระองค์ ให้ลองมาศึกษาและน้อมนำมาปฏิบัติใช้ เพื่อภายหน้าประเทศจะได้สงบสุข

“ตั้งใจจะสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษาให้โรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ทำเท่าที่จะทำได้ แม้ตัวเองมีอาชีพเป็นพนักงานโรงงาน ไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็อยากให้คนไทยได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพทั่วถึงกัน ดังที่พระองค์ทรงออกไปพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในถิ่นทุรกันดาร” นายนพพงษ์กล่าว

ขณะที่นางเกษร เช้ากระจ่าง อายุ 54 ปี ชาวสกลนคร แต่อาศัยอยู่เขตลาดพร้าว กทม. กล่าวว่า ตื่นตั้งแต่เวลา 03.00 น. เพื่อเตรียมมาถวายสักการะพระองค์ ทั้งนี้ พระองค์ทรงเข้าไปพัฒนา จ.สกลนคร จนเปลี่ยนไปมาก จากพื้นที่สีแดงวันนี้ไม่มีคอมมิวนิสต์อีกแล้ว เพราะประชาชนมีอาชีพ มีงานทำ จากโครงการพระราชดำริของทั้งสองพระองค์ เช่น เลี้ยงหม่อนไหม รวมถึงโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตนจะน้อมนำหลักคำสอนของพระองค์ จากที่ปฏิบัติใช้อยู่แล้ว ไปแนะนำลูกหลาน โดยเฉพาะเรื่องการประหยัดพอเพียง จะยกเรื่องนาฬิกาของพระองค์ที่เป็นถึงพระมหากษัตริย์ แต่ทรงนาฬิกาข้อมือที่ราคาไม่กี่บาท เพราะเด็กสมัยนี้ใช้ของฟุ่มเฟือย ก็จะชี้ให้เป็นตัวอย่าง

Advertisement

S__3825712

S__3825714

S__3825716
นายนพพงษ์ ศรีมุข
S__3825718
นางเกษร เช้ากระจ่าง

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image