ตม.ยันไม่มีบุคคลติดแบล็กลิสต์เข้าในประเทศ ช่วงสนามบินนานาชาติกระบี่ไฟฟ้าดับ

 

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) กล่าวถึงกรณีกระแสไฟฟ้าดับที่สนามบินกระบี่ เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 10.10-16.00 น. มีผู้โดยสารเข้าออก 9,793 คน ช่วงเกิดเหตุการณ์ไฟดับมีผู้โดยสาร 1,700 คน จาก 16 เที่ยวบินขาเข้า ส่วนใหญ่เป็นชาวสวีเดนหรือประเทศแถบสแกนดิเนเวีย และชาวจีนรวมถึงมาเลเซีย ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุไฟดับเจ้าหน้าที่ได้ตรวจทุกอย่างตามปกติ เว้นแต่การตรวจแบล็กลิสต์บุคคลต้องห้ามที่ต้องใช้ระบบไฟฟ้าและฐานข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต แต่เมื่อไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้ตามปกติเวลา 16.00 น. ก็มีการเร่งตรวจสอบประวัติแบล็กลิสต์ภายหลัง ซึ่งไม่พบว่ามีบุคคลติดแบล็กลิสต์เข้ามาในประเทศแต่อย่างใด

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ทั้งนี้เหตุการณ์ไฟฟ้าดับของสนามบินถือเป็นเหตุสุดวิสัย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันดูแลรับผิดชอบและแก้ไขในแต่ละพื้นที่ ส่วนมาตรการตรวจสอบบุคคลเข้าออกราชอาณาจักรหลังจากนี้ ตม.จะมีการนำเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า หรือ ไบโอเมทริก มาใช้เพื่อทำการตรวจสอบและเก็บประวัติชาวต่างชาติที่เข้าออกราชอาณาจักรไทย และเป็นการป้องกันการปลอมแปลงเอกสารหนังสือเดินทาง ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดซื้อของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทางรัฐบาลมีความเห็นว่าควรจะมีใช้ในทุกหน่วยงานของตำรวจ โดยการพิจารณาจัดซื้อและทดสอบระบบต่อไป

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ส่วนกระบวนการดำเนินคดีนายอาเธอร์ เซการ่า พริ้นเซฟ หรือ อาตูร์ ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพชาวสเปน แม้จะเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับจากทางการสเปน ข้อหาปลอมแปลงหนังสือเดินทาง แต่ต้องถูกดำเนินคดีและรับโทษตามกฎหมายไทยก่อน จากนั้นจึงจะดำเนินการผลักดันกลับประเทศต้นทาง พร้อมทำประวัติเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในประเทศไทยต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image