ยายร่ำไห้ ขอ ตร.ช่วย หลัง รปภ.คนรู้จัก แอบสลับเอทีเอ็ม รูดเกลี้ยงเหลือ 1.24 บาทติดบัญชี

ทำกันได้ลง! ยายแจ้งความทั้งน้ำตา ถูก รปภ.คนคุ้นเคย แอบสลับบัตรเอทีเอ็ม รูดเกลี้ยง เหลือ 1.24 บาท สูญกว่า 6 แสน เล่าเป็นเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตจากการขายที่ดิน ตั้งใจเก็บไปสร้างบ้านอยู่บั้นปลายชีวิต

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ สภ.เมืองระยอง นางสุจิน พื้นผา อายุ 80 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ชัยกฤต เตารัตน์ สว. (สอบสวน) ให้ดำเนินคดีกับนายสุรชาติ วงษ์จันทร์ รปภ.ของบริษัทแห่งหนึ่ง แอบสลับบัตรเอทีเอ็มแล้วไปถอนเงินจำนวน 610,000 บาท จนเกลี้ยงบัญชี

นางสุจินให้การทั้งน้ำตาว่า เงินในบัญชีของตนมีอยู่ 610,000 บาท ได้หายไปจนหมดบัญชี เหลือเพียงเงิน 1.24 บาท ซึ่งมั่นใจว่าถูกนายสุรชาติกดเอาเงินไป เพราะเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนได้ให้นายสุรชาตินำบัตรเอทีเอ็มไปช่วยกดเงินจำนวน 20,000 บาท โดยนายสุรชาติก็ไปกดเงินมาให้ พร้อมนำบัตรเอทีเอ็มมาคืนให้ โดยไม่ทราบว่าถูกสลับบัตรไปแล้ว

จนกระทั่งวันนี้ได้ให้เพื่อนบ้านไปส่งเพื่อจะกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ปรากฏว่าไม่สามารถกดได้ เพราะหน้าจอแจ้งว่ารหัสผิด จึงกลับไปนำสมุดบัญชีมาที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามาบตาพุด เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบและปรับสมุดบัญชีก็พบว่ายอดเงินในบัญชีเหลือเพียง 1.24 บาท

“ตนไม่เชื่อเจ้าหน้าที่จึงขอดูบัตรเอทีเอ็ม พบว่าเจ้าของบัตรไม่ใช่ชื่อตน เป็นชื่อของนายสุรชาติ วงษ์จันทร์ ซึ่งเป็นชื่อของ รปภ.ข้างบ้าน ที่เคยให้ไปกดเงินให้เมื่อ 2 เดือนก่อน จึงมั่นใจว่าถูกนายสุรชาติแอบสลับบัตร แล้วนำไปกดเงินออกไปจนเกลี้ยงบัญชี”

Advertisement

นางสุจินกล่าวต่อว่า สาเหตุที่ไว้ใจเพราะรู้จักกับนายสุรชาติมาเป็นเวลานับสิบปี อาศัยอยู่บ้านเช่าติดกัน และยังเคยฝากหลานเข้าทำงานอีกด้วยจึงไว้ใจ ที่ผ่านมาเคยให้ไปกดเงินมาแล้วหลายครั้ง และที่ต้องให้นายสุรชาติไปช่วยกดเงินเพราะไม่ไว้ใจหลานตัวเองที่เป็นคนเกเร และถ้าวันนี้ไม่ต้องการใช้เงิน 200,000 บาท เพื่อมาสร้างบ้านก็คงจะยังไม่รู้

ส่วนนายสุรชาติได้ออกจากงานและก็ย้ายออกจากบ้านเช่าไปประมาณ 2 เดือนแล้ว ก่อนไปตนยังให้ยืมเงินไปอีก 8,000 บาท อยากฝากถึงนายสุรชาติว่า “ทำไมทำกับยายได้ลงคอ ขอให้เห็นใจยายด้วย เอาเงินมาคืนให้ยายเถิด เพราะเป็นเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตที่ได้จากขายที่ดิน เตรียมไว้สร้างบ้านอยู่อาศัยก่อนตาย แล้วยายจะเอาเงินที่ไหนใช้จ่าย”

หลังให้การ ยายสุจินได้ร้องไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจจนลั่นโรงพัก เป็นที่เวทนาทำให้เจ้าหน้าที่ และ คนที่อยู่ในโรงพัก ต่างก็สงสารยายที่ต้องมาถูกหลอกจนหมดตัว ต่างก็ขอให้จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมกับนำเงินมาคืนยายให้ได้โดยเร็ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image