เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงการกำหนดมาตรการสอบเข้ารับราชการ เพื่อความโปร่งใส และตรวจสอบได้ของกรมอุทยานฯ ว่า กรมอุทยานฯ ได้เปิดรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งต่างๆ ประจำปี 2559 รวม 78 อัตรา ใน 16 ตำแหน่ง เช่น นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ นิติกร นักจัดการทั่วไป เป็นต้น โดยสมัครทางอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2558 มีผู้สมัครสอบ 4,797 คน ซึ่งมาตรการความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับข้อสอบ และการสอบ ต้องดำเนินการด้วยความถูกต้อง รัดกุม โปร่งใสและได้มาตรฐาน สามารถสรรหาบุคคลเข้ารับราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมอุทยานฯ ได้วางมาตรการอย่างเข้มงวดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การแต่งตั้งคณะกรรมการออกข้อสอบ จากนั้นรองอธิบดีกรมอุทยานฯ จะร่วมเป็นกรรมการคัดเลือกข้อสอบ เพื่อจัดพิมพ์ข้อสอบและบรรจุข้อสอบ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะพิมพ์ในช่วงระยะเวลาที่สั้นที่สุด ไม่พิมพ์แบบทดสอบเสร็จก่อนเป็นเวลานาน คือไม่เกิน 1 วันก่อนนำไปสอบ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อสอบรั่วไหล
รักษาราชการแทนอธิบดีฯ กล่าวอีกว่า ส่วนสถานที่ที่ดำเนินการจัดพิมพ์ข้อสอบ และกระดาษคำตอบ ได้จ้างบริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้พริ้นติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับและน่าเชื่อถือ ซึ่งสถานที่ดำเนินการพิมพ์เป็นสถานที่ปิด มีระบบรักษาความปลอดภัย เช่น กล้องวงจรปิด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการจัดทำแบบเฉลย และตรวจคำตอบ มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จัดทำแบบเฉลยข้อสอบปรนัย และเจ้าหน้าที่ควบคุมการตรวจคำตอบด้วยเครื่องตรวจกระดาษคำตอบ จะเห็นได้ว่าทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส และตรวจสอบได้ ซึ่งในยุคของตนรับรองได้ว่าจะไม่มีการเสียเงินเสียทองเพื่อซื้อตำแหน่งเด็ดขาด ขอให้ผู้สมัครสอบทุกคนใช้ความรู้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่
นายธัญญากล่าวอีกว่า การเข้ามาทำหน้าที่อธิบดีกรมอุทยานฯ ของตน จะเน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ การซื้อขายตำแหน่งต้องไม่มีแน่นอน ถ้ามีให้เอาตนไปเชือดคอได้เลย หากทำในเรื่องความโปร่งใสไม่ได้ตนก็พร้อมพิจารณาตนเอง ทั้งนี้ ในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายคนทำได้ก็ต้องได้ดี ไม่ใช่มาวิ่งเต้นแล้วจะได้ตำแหน่ง นอกจากนั้นนโยบายในการทวงคืนผืนป่าก็ยังดำเนินการต่อไป แต่จะไม่ให้เกิดภาพความรุนแรงขึ้นเพราะกระทบกับความรู้สึกของประชาชน โดย ทส.จะใช้คำว่า “พลิกฟื้นผืนป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” แทนคำว่าทวงคืนผืนป่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรี ทส. ได้เป็นประธานในการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “พลิกฟื้นผืนป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ โดยมีการมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางการพลิกฟื้นผืนป่าฯ ให้แก่ผู้บริหาร ทส. และข้าราชการกรมป่าไม้ โดยมีประเด็นในการดำเนินงาน คือ 1.รัฐบาลมีความจำเป็นต้องหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่าอย่างเด็ดขาด เพื่อรักษาพื้นที่ป่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน 102 ไร่ ให้คงอยู่ รวมทั้งมีความจำเป็นต้องยึดคืนผืนป่า โดยมุ่งเน้นการยึดคืนพื้นที่ป่าจากนายทุนและผู้มีอิทธิพลเป็นหลัก 2.หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องมีแนวทางในการฟื้นฟูป่า เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 3.การดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ต้องได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชน และมีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างรัฐและประชาชน 4.สำหรับประชาชนผู้ยากไร้รัฐบาลมีมาตรการผ่อนผันให้อยู่อาศัยทำกันภายใต้ คำสั่งที่ 66/2557 หรือจัดสรรให้ได้อยู่อาศัยทำกินอย่างยั่งยืนในลักษณะแปลงรวมตามโครงการ คทช.และ 5.กรมป่าไม้ควรพัฒนาและเสริมสร้างทักษะให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในด้านวาทะวิทยาศาสตร์และศิลป์ในการพูด เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจในทุกระดับและลดช่องว่างระหว่างรัฐกับประชาชนให้ได้
