‘พล.ต.’ผู้ค้ำฯ แจ้งจับอดีตอาจารย์มหา’ลัย เบี้ยวทุน เรียนป.เอก อเมริกา ค้างจ่าย 4ล้าน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.กิตติภพ มนูญนิมิตร รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมนางจันทิรา วิเศษณัฐ ครู คศ.2 ชำนาญการ วิทยาลัยอาชีวะธนบุรี เข้าพบ พ.ต.ท.วรพงษ์ ภคเวส พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.1 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์กรณีต้องตกเป็นหนี้ ภายหลังค้ำประกันให้กับ นางภัทรพร บัวทอง อดีตอาจารย์คณะวิทยาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาเอก หรือดุษฎีบัณฑิต ที่คณะบริหารธุรกิจการจัดการ มหาวิทยาลัยแห่งเมืองซาราโซตา รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้ทุนการศึกษาที่ได้รับจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ สกอ.จำนวนเงิน 10 ล้านบาท โดยนางภัทรพร มีการติดต่อขอผ่อนชำระมาแล้ว 6 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายคงเหลือ 4 ล้านบาท โดยนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.กิตติภพ กล่าวว่า สาเหตุที่เดินทางมาร้องทุกข์เนื่องจากตนพร้อมนางจันทิรา และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภากิตติ์ ตรีสกุล อาจารย์ประจำคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่ไม่สะดวกเดินทางมาด้วย ได้รับความเสียหายจากการค้ำประกันให้กับ นางภัทรพร ซึ่งมีความสนิทสนมกัน เนื่องจากเป็นเพื่อนบ้านของตน เพื่อไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2539 เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อวงการศึกษาที่อาจารย์จะได้ศึกษาต่อและกลับมาพัฒนาเรื่องการศึกษาของประเทศชาติ จึงยินยอมลงชื่อค้ำประกันให้ แต่หลังจากนางภัทรพร ศึกษาสำเร็จจนกลับมารายงานตัวกับทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ต้นสังกัด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2546 แต่เพียง 1 เดือนเศษ คือประมาณต้นเดือนเมษายน 2546 ก็ลาออกจากราชการ และทางมหาวิทยาลัยดังกล่าวอนุมัติให้ลาออกได้

พล.ต.กิตติภพ กล่าวต่อว่า เมื่อทางมหาวิทยาลัยแห่งนี้ อนุมัติให้นางภัทรพร ลาออกได้ ตนก็ไม่ทราบว่ามีการติดตามทวงถามกรณีการใช้คืนทุนในการศึกษาต่อด้วยหรือไม่ และไม่มีการแจ้งมาที่ตนในฐานะผู้ค้ำประกัน ได้ทราบ กระทั่งปีต่อมาคือเมื่อปี 2547 ทางมหาวิทยาลัยดังกล่าวฟ้องคดีกับตน เพื่อบังคับให้ตนกับอาจารย์อีก 2 ท่าน ในฐานะผู้ค้ำประกันชดใช้ค่าเสียหาย ที่ผ่านมาติดตามทวงถามกับนางภัทรพร แต่ปรากฏว่ามีการทำหนังสือมายังมหาวิทยาลัยและตน แจ้งว่ายินดีจะชดใช้เงินคืน หลังจากนั้นพบว่ามีการชดใช้ทุนให้ทางมหาวิทยาลัย ประมาณ 6 ล้านบาท

พล.ต.กิตติภพ กล่าวอีกว่า ขณะนั้นยังเชื่อมั่นว่า นางภัทรพรจะยินยอมชดใช้ทุนให้จนหมด แต่เมื่อปี 2557 มีหนังสือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งนี้ ไปฟ้องต่อศาลล้มละลาย ให้ผู้ค้ำประกันทั้ง 3 รวมถึงนางภัทรพร ด้วย เป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งตนยังรับราชการอยู่ จะปล่อยให้เป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้ จึงเห็นว่าสิ่งที่นางภัทรพร กระทำมาตลอดคือการหลอกลวง จึงต้องไปขอความเห็นใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะชดใช้คืนเฉพาะเงินต้น หลังจากนางภัทรพร ผ่อนชำระมาแล้วประมาณ 6 ล้านบาท เราจะขอชำระคืนต่อให้ในส่วนที่เหลือโดยไม่ต้องเสียค่าปรับ

Advertisement

“มีการตกลงกันระหว่างทางมหาวิทยาลัยแห่งนี้กับทางกรมบัญชีกลาง เพื่อให้เราชดใช้เงินคืนในส่วนที่เหลืออีกประมาณ 4 ล้านบาท แล้วให้ผู้ค้ำประกันทั้ง 3 หารเฉลี่ยกันไป ก็เป็นเงินประมาณคนละ 1.34 ล้านบาทเศษ ให้ผ่อนชำระเป็นเวลา 8 และ 12 ปี พอเรารับสภาพหนี้ดังกล่าว ทางมหาวิทยาลัยก็ถอนฟ้องพวกเรา แต่ตัวนางภัทรพร ปัจจุบันศาลตัดสินให้ล้มละลาย โดยคดีล้มละลายภายใน 3 ปี จะพ้นอายุความ เขาก็สบายไม่ต้องเดือดร้อนอะไร เพราะใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอเมริกา แต่เราต้องเดือดร้อนด้วยภาระหนี้ที่ไม่ได้ก่อ” พล.ต.กิตติภพ กล่าว

พล.ต.กิตติภพ กล่าวอีกว่า หากบก.ป.ช่วยนำเรื่องนี้แจ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อติดตามตัวนางภัทรพร กลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หากสามารถประสานงานให้เขากลับมาจะจัดการเรื่องหนี้สินตรงนี้ได้ ที่สำคัญตนทราบมาว่านางภัทรพร ได้สัญชาติอเมริกันแล้ว จึงอยากให้มีการตรวจสอบด้วยเพราะคนที่มีปัญหา มีประวัติอยู่ในเมืองไทย ไม่น่าจะได้รับการพิจาณาให้ได้รับสัญชาติ

ด้านพ.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้ แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นคดีความไปแล้ว หลังจากนี้จะประสานไปยังกรมบังคับคดี เพื่อติดตามเรื่องต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image