มิวสิคบักส์ฟ้อง’แกรมมี่-ลาบานูน’ เรียกค่าลิขสิทธิ์เพลง 50 ล้านบาท ร้องไต่สวนฉุกเฉินห้ามใช้เพลง7อัลบั้ม

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ กรรมการบริษัท เพาเวอร์ เทรเซอร์ จำกัด ค่ายเพลงมิวสิคบักส์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนได้ยื่นฟ้องบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) รวมทั้งศิลปินวงลาบานูน กับพวกรวม 6 คน ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์เพลงทั้ง 7 อัลบั้มของวงลาบานูนซึ่งเป็นสิทธิ์ของบริษัท เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี พร้อมทั้งให้จำเลยทั้งหมดระงับการนำผลงานเพลงลิขสิทธิ์โจทก์ทั้ง 7 อัลบั้มไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าในรูปแบบใดๆ โดยเด็ดขาด โดยตนขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อห้ามนำเพลงทั้ง 7 อัลบั้มไปใช้ ศาลนัดไต่สวนคุ้มครองชั่วคราวในวันที่ 4 เมษายนนี้

“การมาฟ้องศาลในครั้งนี้เพราะความไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม ไม่สุจริต และไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงโดยบริษัทแกรมมี่ใช้สิทธิ์เกินกำหนดไว้ในสัญญา เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ให้เกิดกับกลุ่มตัวเอง และเอาเปรียบกับบริษัทเล็กอย่างผม” นายชนินทร์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้นายชนินทร์ บริษัท กก.บจก. โจทก์ เดินทางไปฟ้องบริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชซิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดย น.ส.บุษา ดาวเรือง กรรมการผู้จัดการ, กรรมการผู้จัดการ สังกัด จีนี่ เรคคอร์ด บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) , บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน)โดย น.ส.สุวิมล จึงโชติกะพิสิฐ กรรมการผู้จัดการ , ศิลปินวงลาบานูน กับพวกรวม 6 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท

คำฟ้องสรุปว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน โดยโจทก์อนุญาตให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้เก็บค่าตอบแทนและค่าเผยแพร่ผลงานด้านดนตรี สิ่งบันทึกเสียงและโสตทัศน์วัสดุ ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของโจทก์ จากสถานประกอบการร้านค้าหรือผู้ใช้งานดนตรีกรรม โดยได้ทำหนังสืออนุญาตให้จัดเก็บค่าเผยแพร่งานอันมีลิขสิทธิ์ต่อสาธารณะ จนถึงปัจจุบันจำนวน 3 ฉบับ ในปี 2545, 2547 และ 2549 โดยอายุสัญญาฉบับที่ 3 จะหมดในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 ซึ่งเจตนารมณ์ของสัญญาคือการที่โจทก์ได้อนุญาตให้จำเลยที่ 1 เป็นบริษัทในเครือจำเลยที่ 3 เป็นผู้จัดเก็บค่าตอบแทนจากบุคคลภายนอกเท่านั้น แต่ปลายเดือนตุลาคม 2557 หลังวงลาบานูน ได้ย้ายค่ายไปสังกัดจีนี่ เรคคอร์ด และเมื่อประมาณต้นเดือนสิงหาคม 2558 ออกผลงานเพลงเชือกวิเศษ แล้วนำงานเพลงทั้ง 7 อัลบั้ม คืออัลบั้มนมสด, 191, คนตัวดำ, 24 ชั่วโมง, Clear, Keep Rocking และสยามเซ็นเตอร์ ที่เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทโจทก์ไปใช้ประกอบการแสดงในแต่ละครั้งไม่น้อยกว่า 10 เพลงต่อรอบ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ นับตั้งแต่ปี 2557 จนถึงวันฟ้องวงลาบานูนได้จัดการแสดงเพื่อประโยชน์การค้ามากถึง 250 รอบ จึงเป็นการกระทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้รับความเสียหาย ก่อนฟ้องโจทก์ได้ให้ทนายความมีหนังสือแจ้งจำเลยทั้ง 6 ชดใช้ค่าเสียหายพร้อมให้ยุติการกระทำที่ละเมิดลิขสิทธิ์โจทก์แล้ว แต่จำเลยทั้ง 6 ยังเพิกเฉย

Advertisement

โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ ทป. 21/2559 ซึ่งศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 23 พฤษภาคม เวลา 09.00 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image