อดีต ผอ.โรงเรียนนาดีค่ายสว่าง อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ผู้นำชาวบ้านต่อสู้กับ ผกค. ยุคแรกจนเกิดหมู่บ้าน ทสปช. ยังประทับใจซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีโอกาสได้ รับเสด็จและรับสั่งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างมิรู้เลือนจนตราบเท่าทุกวันนี้ พร้อมจะสานต่อแนวเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อต่อไปให้ลูกหลาน
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน นายทองพูล ขุนเรศ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาดีค่ายสว่างวิทยา ต.นาดี อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงความประทับใจที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนายทองพูลกล่าวว่า เมื่อปี 2517 ได้ร่วมกับเพื่อนครูและชาวบ้านจับอาวุธลุกขึ้นต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์เพื่อป้องกันตนเอง เนื่องจากกำลังทหาร เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการดูแลรักษาชาวบ้าน ซึ่งผลของการลุกขึ้นสู้ทำให้เป็นแบบอย่างแก่หมู่บ้านอื่นๆ จนกลายเป็นที่มาของชื่อ “หมู่บ้านไทยอาสาป้องกันตนเอง” และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “หมู่บ้านไทยอาสาป้องกันชาติ” หรือ “ทสปช.” มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเมื่อความทราบถึงเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จฯ มาเยี่ยมเยียนพสกนิกร โดยตนเคยได้รับเสด็จและได้รับพระราชทานสิ่งของจากพระองค์ เช่นเดียวกับนางเพ็ญจันทร์ อึ่งปา ครูชำนาญการโรงเรียนเดียวกัน นอกจากนี้ พระองค์ทรงมีพระราชปฏิสันถาร ตรัสถามว่า “ครูอยู่โรงเรียนนี้มากี่ปีแล้ว” ตนได้ตอบไปว่า 10 ปีแล้ว และพระองค์ทรงตรัสอีกว่า “ให้อยู่ที่นี่ต่อไปนะ”
นายทองพูลกล่าวอีกว่า ที่ห้องประชุมของโรงเรียนนาดีได้มีการนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ เมื่อครั้งพระองค์เสด็จฯ เยี่ยมราษฏรหมู่บ้าน ทสปช.และทหาร แสดงไว้เพื่อเป็นเกียรติให้กับครูในยุคแรกเริ่มที่ทุ่มเทเสียสละอยู่โรงเรียนแห่งนี้มาโดยตลอดไม่ย้ายไปไหนจนเกษียณ เนื่องจากเชื่อและยึดถือปฏิบัติตามรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยทุกวันนี้ก็ยังซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง และตั้งแต่ทราบข่าวพระอาการประชวร ก็ติดตามข่าวมาตลอด จนกระทั่งพระองค์สวรรคต ซึ่งต่างก็รู้สึกเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และจะได้น้อมนำเอาคำสอนแบบอย่างของการดำเนินชีวิตของพระองค์ท่านไป ปรับใช้ในการดำเนินชีวิต เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข มีอยู่มีกิน ตามแนวทาง เศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่าน
