(12 กุมภาพันธ์) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณครูรัชนี ชอบจิตต์ ครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์พร้อมด้วยเด็กนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.เชียงของ (โรงเรียนอนุบาลเชียงของ) จ.เชียงราย ได้นำไข่ไก่มาทดลองให้ผู้สื่อข่าวดูหลังพบว่าไข่ที่เด็กนักเรียนในชั้นเรียนคนหนึ่งของห้อง ซื้อมาจากรถเร่ขายของในหมู่บ้านศรีดอนชัย ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ เพื่อนำมาใช้ทดลองในวิชาวิทยาศาสตร์
จากการเปรียบเทียบ พบว่าจากการมองด้วยตาไข่ดังกล่าวเป็นรูปวงรีขนาดเท่ากันหมด เปลือกไข่มีสีขาวนวลออกเหลืองอ่อนและเวลาเขย่าจะคล้ายไข่ลวก ที่เปลือกมีสัญลักษณ์คล้ายตัวเอช มีสีเขียวประทับไว้ และจากการทดลองด้วยสารเคมีของครูและนักเรียนพบว่าไข่ดังกล่าวจะทำปฎิกิริยากับเคมีที่มีผลต่างไปจากไข่ไก่จริง โดยเฉพาะไข่ขาวและไข่แดงและเปลือกไข่ ซึ่งพบว่าไข่จริงหลังเทลงจานไข่แดงจะยังคงรักษารูปทรงเอาไว้ เพราะมีไข่น้ำค้างหุ้มไว้
อย่างไรก็ตาม ไข่ที่เป็นไข่ปลอมเมื่อตอกใส่จานไข่ก็จะแบนออกทันทีและเสียรูปทรง ส่วนไข่จริงจะมีเยื่อสีขาวที่อยู่ระหว่างเปลือกกับไข่ขาวสามารถลอกออกเป็นแผ่น ส่วนไข่ปลอมจะเป็นคล้ายแป้ง เมื่อนำไปแช่น้ำเยื่อที่เปลือกไข่ปลอมมีลักษณะเหมือนกระดาษทิชชู่ ส่วนเปลือกเมื่อนำไปเผาไฟไข่จริงมีกลิ่นปกติ แต่เปลือกไข่ปลอมจะเหม็นเหมือนเผาสารเคมี
คุณครูรัชนี ได้อธิบายถึงความเป็นไปได้ว่า ไข่ดังกล่าวไม่ใช่ไข่ธรรมชาติเป็นเหมือนไข่ที่ผลิตด้วยสารเคมีบางตัวที่ให้คล้ายไข่จริง ทั้งรูปไข่ เปลือกไข่ และเนื้อไข่ ทั้งไข่ขาวและไข่แดงที่ผิดจากธรรมชาติไปหมด จากการสอบถามเด็กนักเรียนที่เอาไข่มาบอกว่า มีรถกระบะไปเร่ขายในหมู่บ้านเป็นไข่เบอร์ 1 ขายในราคาแผงละ 60 บาทเท่านั้น และเมื่อพ่อเอาไปต้มกินเหมือนกินแป้ง และพบว่าหลังการทดลองไข่ดังกล่าวน่าจะปลอม ทำให้บรรดาครูและนักเรียนต่างหวาดผวาไม่กล้ารับประทานเมนูไข่เพราะไม่มีความมั่นใจ
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเชียงของ ได้เข้ามาเก็บตัวอย่างไข่ไปตรวจสอบในห้องแล็บและอีกประมาณ 1 สัปดาห์จะทราบผล
