เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ท้องสนามหลวง ประชาชนจากทั่วสารทิศยังคงหลั่งไหลเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชตั้งแต่ช่วงเช้า
เวลา 11.50 น. ที่เต็นท์กองอำนวยการร่วมกรุงเทพมหานคร มีการแถลงข่าวหลังการประชุมร่วมกันของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตำรวจนครบาล และกรุงเทพมหานคร
นายณรงค์ คงคำ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า พม.ร่วมกับทุกภาคส่วนตามที่นายกรัฐมนตรีให้นโยบายไว้ว่าต้องไม่ทิ้งคนไว้ข้างหลัง พม.จึงจัดตั้งกองกำลังแก้ปัญหาคนเร่ร่อน โดยร่วมกับทุกภาคส่วนและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หลังเวลา 21.00 น.ของทุกวันนับเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากวันนี้ จะเชิญคนไร้บ้านที่อาศัยสนามหลวงเป็นที่หลับนอน ดำเนินการคัดกรองว่าแต่ละคนมีปัญหารูปแบบใด จากนั้นจะส่งไปยังบ้านมิตรไมตรี ซึ่งเป็นที่พักที่จัดสำหรับคนไร้บ้าน จากนั้นจะประสานและส่งต่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์ต่อไป หากประชาชนคนใดพบเห็นกลุ่มคนเร่ร่อน กรุณาแจ้งที่กองอำนวยการกลาง เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะส่งทีมช่วยเหลือ
พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น.กล่าวว่า ในส่วนความรับผิดชอบของนครบาล ดูแล 3 เรื่องหลัก คือ การจราจร, การรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะ
ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยนั้นมี 8 จุดคัดกรองใหญ่รอบสนามหลวง ซึ่งตั้งแต่มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวังตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการเพิ่มจุดและป้ายอำนวยความสะดวกเป็นภาษาต่างประเทศ ทั้งภาษาจีนและอังกฤษ โดยตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนมากกว่า 5 ล้านคนที่เดินทางมาท้องสนามหลวง และวันนี้ (4 พ.ย.) ตั้งแต่ช่วง 04.00-11.00 น. มีประชาชนแล้วทั้งสิ้น 47,000 ราย
“เรื่องการพกพาอาวุธนั้น แนะนำว่าไม่ควรนำคัตเตอร์ กรรไกร หรือมีดแบบต่างๆ เข้ามายังพื้นที่ เพื่อป้องกันการก่อเหตุ และขอให้ประชาชนที่เดินทางมาระวังทรัพย์สินมีค่า ทั้งนี้ ที่ผ่านมาแทบไม่มีการก่อเหตุร้าย ส่วนผู้ปกครองที่นำบุตรหลานมาด้วย แนะนำให้เขียนชื่อที่อยู่ใส่กระเป๋าบุตรหลานไว้ เพื่อป้องกันการพลัดหลง ซึ่งที่ผ่านมามีหลายราย โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเทศกิจ 150 รายช่วยอำนวยความสะดวกในการคัดกรองและการจราจรแก่ประชาชน นอกจากนี้ยังมีการจัดจุดรับแจ้งเหตุ 5 จุดรอบสนามหลวง เพื่อรับแจ้งเหตุเอกสารสูญหาย รวมถึงรับแจ้งคดีอาญา ขณะที่ยังมีการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนโดยมีรถตู้ตำรวจที่วิ่งเสริมจาก ขสมก. รับประชาชนจากสถานีขนส่งหมอชิตมาสนามหลวง ขอวิงวอนให้เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะจะสะดวกที่สุด ประชาชนที่จะเข้าสักการะพระบรมศพ ต้องนำบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางมาด้วย เพราะจะมีการตรวจบัตรทุกคน เนื่องจากมีประชากรจากประเทศเพื่อนบ้านแฝงตัวเข้ามา ส่วนบางคนที่ลืมนำมาก็สามารถเข้าได้โดยเจ้าหน้าที่จะถ่ายรูปและทำประวัติไว้ทุกคน” พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าว
