ปีติภาพประวัติศาสตร์ ในหลวง ร.9 ทรงดนตรี ณ น้ำตกห้วยยาง

ระหว่างปี 2501-2502 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรมเพื่อคลายพระอิริยาบถ ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ระหว่างนั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสไปหลายอำเภอใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่ปลาบปลื้มปีติยินดีแก่พสกนิกรเป็นล้นพ้น

ในยามที่ทรงประทับก็จะทรงพระสำราญด้วยการทรงดนตรี รวมทั้งกีฬาทางน้ำและทางบก

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2502 เป็นอีกหนึ่งในความประทับใจและเป็นวันประวัติศาสตร์ของชาวอำเภอทับสะแก และอำเภอใกล้เคียง ที่ได้รับเสด็จด้วยความจงรักภักดี

Advertisement

คราวนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

เสด็จประพาสน้ำตกห้วยยาง ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก และต่อมาได้เสด็จประพาสอีกครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยทรงสำราญกับดนตรีท่ามกลางธรรมชาติ และสรงพระวรกายในสายน้ำอันใสเย็น เพื่อผ่อนคลายพระอิริยาบถ

น้ำตกห้วยยางเป็นน้ำตก 9 ชั้น มีต้นน้ำจากเขาหลวงในเทือกเขาตะนาวศรี ลำน้ำใสสะอาด โดยเฉพาะบริเวณแอ่งน้ำตกชั้นที่ 7 เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สำหรับนำไปใช้ในพระราชพิธีสำคัญ ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบ

Advertisement

ของอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่ อ.บางสะพาน อ.ทับสะแก และ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์

ในส่วนที่แคบที่สุดของประเทศ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีธรรมชาติสวยงาม ประกอบด้วย ป่าเขา น้ำตก เนื้อที่ประมาณ 100,625 ไร่ หรือ 161 ตารางกิโลเมตร (ตร.ม.)

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้จากแยกถนนเพชรเกษมขาเข้า กทม.ระหว่างหลัก กม.ที่ 350-351 ด้วยระยะทางเพียง 6 กิโลเมตร

ทรงดนตรี 5ประจวบ

จากหลักฐานที่ปรากฏในหนังสือประวัติมหาดไทยส่วนภูมิภาค นายสะอาด ปายะนันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดในสมัยนั้น เล่าความทรงจำจากการรับเสด็จ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2502 ด้วยความภาคภูมิใจ

“ผมจำได้ว่า พระองค์เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยขบวนรถที่ตามเสด็จประมาณ 3-4 คัน เมื่อพระองค์เสด็จถึงเป็นเวลาก่อนเที่ยงวัน จากนั้นได้เสด็จฯไปพักผ่อนพระอิริยาบถที่แคร่ประทับใกล้น้ำตกชั้น 3 ทรงสรงพระวรกายแล้วเสวยพระกระยาหารกลางวัน ทอดพระเนตรธรรมชาติและตรัสกับผู้ตามเสด็จอย่างใกล้ชิด จากนั้นเสด็จประทับริมอ่างแก้ว และทรงเป่าคลาริเน็ต

หลายเพลง กระทั่งเวลา 17.00 น. ผู้ตามเสด็จได้ทูลเชิญเสด็จกลับ แต่พระองค์และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยังทรงประทับอยู่ต่อเป็นครู่ ทรงพระเกษมสำราญกับป่าเขาและลำธาร กว่าจะเสด็จกลับก็เป็นเวลาพลบค่ำ”

“ในการเสด็จฯครั้งนั้น ทรงห่วงใยในความงดงามของธรรมชาติที่ได้ให้ความชุ่มชื้นเป็นอย่างดี พระองค์ท่านตรัสกับผมว่า ขอให้ช่วยกันระมัดระวังรักษาป่าไว้ให้ดี อย่าให้มีผู้ใดมาทำลายบรรดาต้นไม้เหล่านี้ เพื่อให้คงไว้ตามธรรมชาติตลอดไป”

ด้าน นายเพี้ยน ทอดสนิท อดีตกำนันตำบลห้วยยาง เปิดเผยว่า ก่อนรับเสด็จชาวบ้านได้เตรียมการล่วงหน้านานนับเดือน ทั้งถางป่า ทำทาง สร้างที่ประทับ ทำกันทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย คงจะเป็นเพราะความปลื้มปีติที่จะได้รับเสด็จ ด้วยพระบารมีดลใจให้ทุกคนทำงานกันอย่างแข็งขัน ในช่วงนั้นเป็นฤดูฝนบางครั้งจุดไต้และตะเกียงเพื่อตักน้ำที่ขังตามทางที่จะเสด็จพระราชดำเนิน พวกเราทำกันด้วยความภาคภูมิใจ

“การเสด็จครั้งที่ 2 เป็นเวลาไล่เลี่ยกับครั้งแรก ครั้งนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประชวรข้อพระบาท ไม่สามารถจะเสด็จพระราชดำเนินได้โดยสะดวก ผมได้จัดคานหามเป็นที่ประทับถวาย โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตามเสด็จ ผมเป็นผู้แบกคานหามถวายกับเพื่อนอีก 3 คน มีความสุขและดีใจที่สุดในชีวิต ที่ได้ถวายที่ประทับสำหรับเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งขณะที่ถวายคานหามอยู่นั้น พระบาทของในหลวงถูกตัวผมตลอดเวลา เมื่อพระองค์เสด็จกลับได้พระราชทานเหรียญ จปร. และเหรียญที่ระลึกคราวเสด็จประพาสยุโรปให้”

ทรงดนตรี 7ประจวบ

ขณะที่ นายเพลิน นพประพันธุ์ อดีตกำนันตำบลอ่างทอง อ.ทับสะแก เล่าถึงประสบการณ์ความปลื้มปีติที่ทูลเกล้าฯถวาย “งาช้างแดง”

ในคราวเสด็จพระราชดำเนินน้ำตกห้วยยางว่า งาช้างแดงอันแปลกประหลาดนี้ได้มาจากเมืองมะริด ประเทศเมียนมา

ตนเป็นคนชอบเดินป่าตามทิวเขาตะนาวศรีข้ามไปถึงเมืองมะริด ได้งาช้างสีแปลกประหลาดนี้มามีความยาวประมาณ 24 นิ้ว มีลักษณะสีแดงเผือกกลายขาวเป็น กนกสุขปลั่งเป็นมันวาว

นายเกริกชัย ชาติไทยไตรรงค์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยยาง อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง สภาวัฒนธรรมจังหวัด

และประชาชนในพื้นที่ อ.ทับสะแก ร่วมกันจัดกิจกรรมแสดงความอาลัยตามรอยเสด็จ ในครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนิน ณ น้ำตกห้วยยาง

เพื่อน้อมรำลึกแสดงความอาลัย และเทิดพระเกียรติในความเป็นอัครศิลปินด้านดนตรี ภายใต้ชื่องาน “ร้อยบรรเลงเพลงของพ่อ สานต่อปณิธาณองค์อัครศิลปิน” ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป

“การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเชิญผู้ที่เคยเฝ้ารับเสด็จที่น้ำตกห้วยยาง และโรงเรียนบ้านเนินดินแดง มาเล่าประสบการณ์ความประทับใจในการเข้าเฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด โดยมีการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ 15 เพลงจากนักเรียน ครูสอนดนตรี ผู้บรรเลงดนตรีไทยและดนตรีสากล ทั้งนี้คณะทำงานได้ทาบทามคุณเทวัญ ทรัพย์แสนยากร มือเป่าแซกโซโฟนชื่อดังระดับประเทศ มาร่วมบรรเลงในงานดังกล่าว จากนั้นนายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ จะนำกล่าวแสดงความอาลัยมีการร้องเพลงตามรอยเท้าพ่อและเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อน้อมรำลึกในพระมหา กรุณาธิคุณที่ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดระยะเวลาทรงครองราชย์ 70 ปี”

ทรงดนตรี ประจวบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image