ชัชชาติ ลุยหนองจอก เขตปะทะน้ำแรกจากด้านเหนือ เมืองรุกคืบพื้นที่เกษตร จัดการน้ำยากกว่ากรุงเทพฯชั้นใน

ชัชชาติลั่นไม่น่าเชื่อหนองจอกรถติด เปิดปัญหาจัดการน้ำยุ่งยาก ทำเกษตรต้องมีน้ำ แต่น้ำก็ท่วม

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เวลา 12.20 น. ที่ห้องประชุมศาลาประชาคม สำนักงานเขตหนองจอก
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางตามกิจกรรมผู้ว่าฯสัญจร พร้อมนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. นายวุฒิภัทร คำประกอบ ผู้อำนวยการเขตหนองจอกและนายณรงค์ รัสมี ส.ก.เขตหนองจอก พรรคพลังประชารัฐ

นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงเขตหนองจอกว่า เขตหนองจอกเป็นเขตชายขอบของกรุงเทพฯ ด้านเหนือติดปทุมธานี ด้านตะวันออกติดแปดริ้ว ด้านล่างติดลาดกระบัง ความจริงแล้วเขตหนองจอก เป็นเขตที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีพื้นที่ประมาณ 240 ตารางกิโลเมตร เป็น 1 ใน 7 ของพื้นที่กรุงเทพฯ แต่มีประชากรประมาณ 1.8 แสนคน ซึ่งถือว่าเยอะ และเมืองเจริญขึ้นมาอาจเป็นเพราะเป็นพื้นที่การเกษตรเยอะ มีพื้นที่นาถึง 50,000 ไร่ และพื้นที่ 1 ใน 3 ของหนองจอก เป็นพื้นที่เกษตรกร เป็นพื้นที่นา ความจริงเป็นพื้นที่ที่มีความผสมผสานกันระหว่างเมืองที่รุกคืบเข้ามาและเกษตรกรยังอยู่ในพื้นที่

“ปัญหาหลักของเขตหนองจอก จริงๆแล้วที่ต้องดูเลยคือถนนหนทาง เพราะเป็นถนนที่สร้างเข้าไปในพื้นที่เป็นเกษตรกรรมเก่า หลายถนนเป็นถนนที่เอกชนทำ และข้างนอกให้เป็นพื้นที่สาธารณะ ซึ่งจะมีสภาพที่หลายครั้งไม่ได้รับการดูแล เป็นหลุมเป็นบ่อ ถนน 1,000 กิโลเมตรที่เขตต้องดูแลอยู่ ซึ่งถือว่าเยอะ ตรงนี้ที่ชาวบ้านร้องเรียนมาเป็นอันดับ 1 เพราะเป็นถนนที่ประชาชนสร้าง และอาจมีการมอบถนนให้เป็นสาธารณะเฉลี่ยเดือนละเส้น เพราะฉะนั้นเป็นปัญหาที่ต้องดูแล” นายชัชชาติกล่าว

Advertisement

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องน้ำท่วมเพราะถนนหลายสายไม่ได้มีท่อระบายน้ำระบายลงคูคลองลงไป พอมีหมู่บ้านจัดสรรมาการต่อเชื่อท่อระบายน้ำทำไม่ได้แล้วเพราะถนนหลักไม่มีท่อระบายน้ำต่อลงคูคลอง

“เรื่องขยะเพราะว่าเมืองขยายออก หมู่บ้านมาเยอะไปหมด และการเก็บขยะยากขึ้นเพราะถ้าไปเวียนตามหมู่บ้าน ถ้าเหมือนในเมืองที่ความหนาแน่นเป็นจุดๆ การเก็บขยะทำได้ง่ายกว่า เพราะฉะนั้นทำให้ระบบเก็บขยะต้องใช้ทรัพยากรมาก ซึ่งไม่มีข้อจำกัดเรื่องรถหรือบุคคล ตรงนี้อาจมีการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ เช่น มีจุดเก็บขยะเพื่อให้รถขยะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาด้านอื่นคือเรื่องน้ำ เพราะเขตนี้เป็นเขตที่ปะทะน้ำแรกที่มาจากด้านเหนือตอนนี้ แต่พื้นที่เราจะมีการต่อเชื่อมกับปวงชนในหลายเส้นทาง วันนี้กรมโยธาได้มาหารือเรื่องการจัดการเรื่องระบายน้ำที่ได้มีการพูดคุยกันอย่างดีและมีารือกันให้เป็นอย่างดี และอีกอย่างหนึ่งคือเขตนี้ต่างจากเขตอื่นเพราะเขตอื่นไม่อยากให้มีน้ำในเขต พยายามพร่องน้ำให้ได้มากที่สุด แต่เขตหนองจอกมีพื้นที่เกษตรกรรมถึง 1 ใน 3 เพราะฉะนั้นน้ำต้องมีด้วย ซึ่งไม่ใช่มีน้ำอย่างเดียว ต้องมีฝายกั้นน้ำด้วย สำหรับการเกษตรเป็นระยะๆด้วย เพราะฉะนั้นการบริหารการจัดการจะยุ่งยากกว่าการบริหารการจัดการน้ำในเขตด้านใน

Advertisement

“อีกปัญหาที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นปัญหาคือเรื่องการจราจรติดขัด เพราะจุดด้านหน้าสำนักงานเขตเป็นจุดที่ติดมากที่สุด เพราะมีถนนเข้ามา 6 เลนบีบเข้ามาเป็น 4 เลน และ2 เลนเพราะจุดนี้ต้องเป็นจุดที่ต้องมาทบทวนเพราะการจราจรติดขัดและเป็นปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามาทราฟฟี่ฟองดูว์ที่เป็นเรื่องถนนเป็นหลัก และเขตมีการแก้ไขปัญหาค่อนข้างดี เพราะประชาชนก็ให้ 5 ดาวมา” นายชัชชาติกล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์น้ำจากทางเหนือที่หนองจอกเป็นที่แรกจะบริหารจัดการอย่างไร นายชัชชาติ กล่าวว่า จุดที่ท่วมหนักของหนองจอกความจริงแล้วเป็นชุมชนเคหะฉลองกรุง ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำติดล้อม

“ตอนนี้ปัญหาคือเหมือนเป็นเขื่อนล้อมรอบและกำลังสูบข้างในไม่พอ เพราะฉะนั้น เราจะปรับตรงนี้ให้มีกำลังสูบมากขึ้น ส่วนเรื่องการระบายเลือกปวงชนเป็นหลัก ต้องมีการหารือ และเพิ่มการระบายน้ำลงด้านล่างให้เร็วที่สุด สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงอะไรมาก” นายชัชชาติกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image