ชาวชุมชนร้องเยียวยา ผลกระทบโครงการรถไฟสายสีแดง ปิดกั้นทางสัญจร

(12 กุมภาพันธ์) เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ห้องประชุมหงส์มังกร เทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานี พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดินพร้อมด้วยนายวทัญญู ทิพยมณฑา ผอ.สำนักงานสอบสวน 1 นายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.ปทุมธานี นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย นายเดชา กลิ่นกุสุม รองนายกเทศมนตรีนครรังสิต  คณะผู้ตรวจการแผ่นดินและตัวแทนชาวบ้านทั้ง 4 ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยทั้งหมดได้ร่วมประชุมแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ปิดกั้นเส้นทางการสัญจรของประชาชนบริเวณการก่อสร้างระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง)ช่วงบางซื่อรังสิต ระหว่างสถานีรถไฟหลักหกคลองรังสิตประยูรศักดิ์

จนเวลาต่อมาหลังจากได้ประชุมเสร็จสิ้นทางคณะทั้งหมดได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแนวรั้วกั้นริมทางรถไฟ(สายสีแดง) ช่วงสถานีช่วงบางซื่อ-รังสิต ระหว่างสถานีหลักหกถึงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชุมชนริมทางรถไฟ ที่ได้รับผลกระทบจากรั้วกั้นปิดทางเข้าออก เพื่อเร่งประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานหาทางออกเยียวยาประชาชน

พล.อ.วิทวัส เปิดเผยว่า การก่อสร้างโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง(สายสีแดง)ช่วงบางซื่อ-รังสิต การรถไฟแห่งประเทศไทยมีแผนสร้างรั้วกั้นชิดเขตรถไฟมีระยะทาง กิโลเมตร ทำให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในชุมชนเดชาพัฒนา 87 และชุมชนใกล้เคียงในตำบลประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานีกว่า 300 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ ด้วยเกรงว่ารั้วดังกล่าวจะปิดกั้นทางเข้าออกชุมชน ไม่สามารถออกไปยังถนนเลียบคลองรังสิตฯและซอยพหลโยธิน 87 ได้เนื่องจากมีเส้นทางเดียวที่ใช้สัญจรกันอยู่มาช้านานไม่มีทางออกอื่น ทางประชาชนจึงได้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงต้องเร่งดำเนินการแก้ไขและเยียวยาเป็นการด่วน

พล.อ.วิทวัสกล่าวต่ออีกว่า สำหรับการประชุมหารือและลงพื้นที่ในวันนี้ก็ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีนายสุรชัย ขันอาสา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและตัวแทนจากบริษัทผู้รับเหมา โดยได้ร่วมประชุมกัน และได้ร่วมกันเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน คือจะเว้นวรรคพื้นที่สำหรับเป็นทางเข้าออกไว้มีความกว้าง 6-8 เมตรเลียบทางรถไฟเพื่อทำถนนเชื่อมต่อไปยังถนนเลียบคลองรังสิประยูรศักดิ์ ทำรางน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมชุมชน สร้างสะพานข้ามระหว่างเคหะชุมชนกับวัดรังสิตซึ่งมีโรงเรียนและสถานีอนามัย และขอทางออกเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟหลักหก ซึ่งผู้ตรวจการได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการก่อสร้างโครงการอย่างรอบคอบ อีกทั้งควรให้ข้อมูลกับประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ การก่อสร้างโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองเป็นอีกหนึ่งระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้แม้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอีกหลายล้านคนก็จริงแต่ต้องไม่ลืมอำนวยความสะดวกหรือมองข้ามประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการนี้

ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่าจากปัญหาของชาวบ้านเราได้ข้อสรุปไปแล้วทั้ง 3 ข้อคือชุมชนจะใช้ลำรางน้ำร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภายในชุมชน ในส่วนของการทำสะพานลอยนั้นทางเราก็ไม่มีปัญหาแต่อยากจะเสนอให้มีการก่อสร้างให้รถจักรยานยนต์ได้ใช้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวกในเรื่องของการกิจกรรมของชาวบ้านในแต่ละวัน ในส่วนของเรื่องที่เป็นปัญหาอยู่ก็คือในเรื่องของถนนที่ชาวบ้านใช้อยู่นั้นหากมีการก่อสร้างลำรางและปิดกั้นรั้วก็คงจะส่งผลกระทบกับชาวบ้านคือมันไปปิดเรื่องของการสัญจรของชาวบ้าน พอเราได้ลงพื้นที่ตรวจสอบดูแล้ว หากทำรั้วกั้นมันคงไปปิดเส้นทางสัญจรอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงได้มีมาตราการการแก้ไขในเรื่องดังกล่าวนี้คือเราต้องแก้ไขด้านเทคนิคก่อนแล้วค่อยลงไปดูในเรื่องของข้อเท็จจริงในการที่เราปฏิบัติว่าทางไหนมันเป็นทางเลือกที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งก็ต้องประสานกันระหว่างวิถีชีวิตของชุมชนและก็ความปลอดภัยในการเดินรถของการรถไฟซึ่งต้องบอกเลยว่าการรถไฟให้ความสำคัญมากในปัจจุบันนี้เพื่อที่จะลดการเกิดอุบัติเหตุระหว่างคนเดิน การเดินรถไฟและรถที่ใช้สัญจรไปมา ซึ่งทั้งหมดนี้ตนเองก็รับปากในที่ประชุมแล้วว่าภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559 นี้น่าจะได้ข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องแนวทางเลือกว่าเราจะมีแนวทางเลือกทั้งหมดกี่ทางแล้วจึงมาหารือร่วมกับจังหวัดและชาวบ้านอีกครั้งว่าทางเลือกไหนคิดว่าดีที่สุดแล้วเดินไปได้ระหว่างชาวบ้านและจังหวัด

ADVERTISMENT

201602121619206-20070201100444

ขณะที่ นายภิรมย์ เพียรเก็บ ประธานชุมชนเดชาพัฒนา89 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่าจากกรณีปัญหาดังกล่าวที่ชาวบ้านได้เรียกร้องขอให้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจจะส่งผลกระทบของชาวบ้านทั้ง 4 ชุมชนประกอบไปด้วย ชุมชนเดชาพัฒนา89 ชุมชนเดชาพัฒนา ชุมชนสุขเกษม และชุมชนสินสมุทร ซึ่งทั้ง 4 ชุมชนนี้ได้รับผลกระทบทั้งหากมีการทำรั้วกั้น เบื้องต้นการรถไฟแจงว่าในแต่ละซอยจะยังไม่ปิดแต่พื้นที่ว่างที่มีการขุดร่องน้ำที่ไม่ใช้ทางเข้าออกเขาก็จะกั้นรั้วก็แสดงว่าเขามีแนวโน้มแล้วว่าจะต้องมีการปิดตายแน่นอน

โดยขณะนี้การรถไฟจะหาทางออกให้กับชาวบ้านโดยบอกว่าจะไปคุยกับผู้ใหญ่ว่าจะยกเส้นทางที่ชาวบ้านร้องขอไปประมาณ 6-8 เมตรและอีกหนทางที่ 2 คือจะไปขอเวนคืนที่ดินบริเวณท้ายซอยอย่างที่ผู้ว่าการการรถไฟได้พูดไว้ในที่ประชุม โดยในลักษณะที่ 2 แบบนี้ตนคิดว่าไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง เนื่องจากชาวบ้านที่มีที่ดินบริเวณที่จะถูกขอเวนคืนเขาไม่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการนี้เขาคงไม่ยอมอย่างแน่นอน อีกทั้งในแต่ละซอยยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าจำนวนมากโดยเจ้าของที่เราก็ไม่รู้ว่าเป็นใครการที่จะทำทางทะลุไปในที่ของเจ้าของที่ที่เขาไม่ได้รับผลกระทบนั้นเขาจะยอมหรือไม่

รายงานระบุว่า จากปัญหาข้างต้นนี้ชาวบ้านทั้งหมดต้องการได้ทางสัญจรด้านหน้าแล้วไปเชื่อมต่อกับสะพานคลองรังสิตประยูรศักดิ์ซึ่งมันจะสะดวกในการสัญจรและการใช้ชีวิตของวิถีชุมชนที่เคยดำเนินมาตลอดและชาวบ้านจะไม่ต้องอ้อมไปใช้เส้นทางที่ไกลว่า ที่ผ่านมาทางการรถไฟแจงว่าการปิดกั้นนั้นเพื่อป้องกันชาวบ้านจากเสาไฟฟ้าแรงสูงแต่ทว่าชาวบ้านได้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่าทำไม่รถไฟฟ้าที่วิ่งบนที่สูงจึงได้มาลดระดับมาวิ่งข้างล่างในช่วงนี้แล้วรถไฟฟ้าก็ไปวิ่งขึ้นอีกที่สถานีรถไฟรังสิตอีกครั้ง  อีกทั้งพื้นที่บริเวณนี้ได้เกิดน้ำท่วมปี 54 จากสันรางรถไฟประมาณ 20 ซม.ทั้งที่การรถไฟสามารถทำสะพานให้ผู้ที่ใช้บริการรถไฟฟ้าเดินขึ้นไปก็ได้ สำหรับการทำประชาพิจารณ์ที่ทางผู้ว่าการรถไฟได้พูดในที่ประชุมว่ามีการลงมาทำแล้วนั้นตนเองขอยืนยันเลยว่ายังไม่มีการทำแต่อย่างใดและทำเมื่อไหร่ทำวันไหนชาวบ้านเขายังไม่รู้เลยแล้วคนที่ไปประชุมได้ลงชื่อเป็นชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจริงๆ หรือเปล่า ซึ่งจากนี้คงจะต้องรอความคืบหน้าจากการรถไฟแห่งประเทศไทยอีกครั้งในวันที่ 31 มีนาคม ที่จะถึงนี้ต่อไป