ชัชชาติอุ่นใจมีทหารให้ความร่วมมือ หลังชี้จุดให้บิ๊กป้อมช่วย ผอ.สำนักระบายน้ำแจ้งจุดฟันหลอเหลือเพียง 3%
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 12.00 น. ที่กรมอู่ทหารเรือ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย ภายหลังการบรรจุและวางกระสอบทรายโดยการสนับสนุนกำลังของทหาร โดยมี พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ, พล.ต.ญาณะโชติ ผลฉาย ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการพลเรือน สำนักนโยบายและแผนกลาโหม และนายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ร่วมด้วย
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการจัดการน้ำว่า วันนี้ทางกรุงเทพมหานครกับทางทหารที่มาร่วมกับทางเจ้าหน้าที่สำนักระบายน้ำในการทำเขื่อน เพื่ออุดฟันหลอตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างทางกองทัพไทยกับทางกรุงเทพมหานคร ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกฯ ได้ให้ความช่วยเหลือ
“ท่านแจ้งมาว่าต้องการความช่วยเหลืออะไร เราก็ติดต่อว่าตอนนี้จุดที่สำคัญตอนนี้มีอยู่ 2 จุด คือการเรียงกระสอบบริเวณอู่ทหารเรือธนบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ฟันหลออยู่ ที่ต้องนำเรือเข้าออก ถ้าเกิดน้ำทะลุจากตรงนี้ได้ก็จะกระทบเข้าไปหลายชุมชน ซึ่งตอนนี้ได้กำลังพล 50 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ กทม. 50 นาย ที่น่าจะเสร็จภายในบ่ายนี้ ระยะทางประมาณ 100 เมตร อีก 50 นายกำลังพลอยู่ที่สะพานตากสิน ซึ่งเป็นจุดรูรั่วอีกจุดบริเวณถนนเจริญกรุง และที่เจริญกรุงมีรูรั่ว 2 จุด คือสะพานปลากับใต้สะพานตากสินที่เป็นเขื่อนของทางหลวงชนบท จึงมีกำลังทหาร 50 นาย ช่วยกรอกกระสอบทรายให้เพื่อที่จะได้พร้อมในการจัดเรียง
อนาคตผมว่าคงมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ความจริงแล้ว กทม.กับกองทัพมีการประสานงานมาตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้นโยบายมาตั้งแต่เดือนที่แล้วและท่านก็ได้ถามเรื่องนี้ตลอด ก็ได้มีความร่วมมือกันมาตั้งแต่ขุดลอกคลองลาดพร้าวและคลองต่างๆ ในอนาคตคงมีการร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ทหารก็มีกำลังและมีความรู้ อย่างกองทัพเรือเองก็มีทั้งกำลังพล เครื่องมือ เช่น เครื่องมือผลักดันน้ำ แต่ว่าทหารต้องดูแลทั้งประเทศ ก็มีบางส่วนที่อาจขอมาช่วยเรื่องผลักดันน้ำได้ หรือมีองค์ความรู้ เพราะว่าเรามีกรมอุทกศาสตร์ที่รู้เรื่องน้ำขึ้นน้ำลง “ นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ความจริงแล้วทหารเรือมีการดูแลชุมชนบริเวณนี้อยู่แล้ว เพราะเข้าไปในชุมชนและดูแลชุมชนอย่างใกล้ชิด ทั้งการเตือนและการเข้าไปดูแลปัญหาต่างๆ ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี ตนว่าหลักการคือดูแลชุมชนใกล้เคียง ให้ทุกหน่วยดูแลชุมชนใกล้เคียงด้วย เห็นภาพต่อที่รวมกันทั้งกรุงเทพฯได้ ต้องขอบคุณทางทหารและทุกหน่วยที่ร่วมมือกัน
“ผมคิดว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี เชื่อว่าการร่วมมือกันจะทำให้ประชาชนมั่นใจและรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น ที่ทุกคนร่วมมือกันโดยเอาพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง” นายชัชชาติกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การอุดจุดฟันหลอเป็นอย่างไรบ้าง นายชัชชาติกล่าวว่า ตอนนี้จุดฟันหลอมี 76 จุด ตอนนี้คืบหน้าไป 96%
นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผอ.สำนักการระบายน้ำ กล่าวเสริมว่า จุดฟันหลอตอนนี้เหลือประมาณ 3% คือเสริมระดับเขื่อนชั่วคราวให้สูงขึ้น แต่ความยาวเราเรียงหมดแล้ว
เมื่อนายชัชชาติถามนายสมศักดิ์ว่าสถานการณ์การระบายน้ำเป็นอย่างไรบ้าง นายสมศักดิ์กล่าวว่า ปัจจุบันน้ำเหนือที่ไหลผ่านในกรุงเทพมหานคร ผ่านสถานีบางไทร ซึ่งเป็นตำแหน่งตรวจวัดน้ำก่อนเข้าสู่ กทม. อยู่ประมาณ 1,400 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำที่คอยเฝ้าระวังที่ปากคลองตลาด เมื่อวานนี้อยู่ประมาณ 1.86 เมตร ซึ่งอยู่ในระดับที่เขื่อนควบคุมได้
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า เข้าใจว่าระดับน้ำในปีนี้ระดับน้ำปากคลองตลาดสูงสุดประมาณ 2.08 เมตร ซึ่งยังไม่ถือว่าถึงจุดวิกฤต ปัญหาตอนนี้คือน้ำที่รั่วที่เป็นรอยต่อ เป็นตะเข็บ หรือเป็นจุดอ่อนที่รั่วผ่านช่องระบายน้ำอื่นขึ้นมา กับอาจเป็นจุดที่พระราม 3 ซึ่งเป็นจุดที่ยังเรียงเขื่อนไม่เสร็จ
“เข้าใจว่าพยายามดูแลภาพรวม แต่ต้องเข้าใจสถานการโลกเรื่องน้ำ ตอนนี้น่ากลัว ผมว่าสภาวะโลกร้อนทำให้เกิดฝนที่ไม่คาดคิดในหลายพื้นที่และทำให้ฝนตกหนัก คงต้องพยายามเตรียมตัวรับมือไว้แต่เนิ่นๆ ทั้งในการทำเขื่อน หรือการระบายน้ำต่างๆ แต่เมื่อเช้ามีฝนตกหนักทั้งพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่เผอิญลมพัดเร็วทำให้ฝนผ่านไปเร็ว มีปริมาณฝนประมาณ 20 มิลลิเมตร แต่เมื่อเช้าถ้าดูสภาพน้ำในคลองเราพยายามพร่องน้ำลึกที่สุดแล้ว คงไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วมอะไร คงต้องใช้หลายมิติ ช่วยกันดูแล เรารู้สึกอุ่นใจที่ทางทหารก็ให้ความร่วมมืออย่างเข้มแข็งโดยตลอดในหลายๆ มิติ“ นายชัชชาติกล่าว
