ชัชชาติสัญจรบางเขน รับกังวลน้ำเต็มคลอง-ฝนตกหนัก เร่งระบายน้ำออก ลุยลอกท่อ
เมื่อวันที่ 11 กันยายน เวลา 08.30 น. ที่สวนวัชราภิรมย์ ถนนรามอินทรา เขตบางเขน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ร่วมปลูกต้นไม้ โครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น กิจกรรมครั้งที่ 13 ดำเนินการโดยสำนักงานเขตบางเขน พร้อมนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. น.ส.พิศมัย เรืองศิลป์ ผอ.เขตบางเขน
นายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าฯกทม. และคณะทำงานของ กทม. อาทิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาด สำนักงานเขตบางเขน เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติได้ขุดดินและรดน้ำ ‘ต้นแดง’ ต้นไม้ประจำ จ.ตาก โดยมีการปลูกกล้าต้นตะเคียนทอง จำนวน 35 ต้น (ไม้ประจำ จ.ปัตตานี, กล้าต้นมะค่าโมง จำนวน 35 ต้น (ไม้ประจำ จ.สุโขทัย และกล้าต้นแดง จำนวน 10 ต้น (ไม้ประจำ จ.ตาก) รวมจำนวนปลูกต้นไม้ 80 ต้น
นายชัชชาติให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังกิจกรรมปลูกต้นไม้ถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่าสถานการณ์น้ำท่วมยังหนักอยู่ในเขตบางเขน และแถวรามอินทราเลขคี่ เพราะไม่สามารถระบายน้ำออกไปได้ แถวแยกบางเขนยังมีน้ำท่วมขังอยู่ และพหลโยธินมีช่วงที่ต่อกับถนนตัดใหม่ ที่มาจากทางถนนสุขาภิบาล 5 ดอนเมือง และคลองเปรมฯน้ำยังสูงอยู่ ตอนนี้หลักๆ คือ 3 คลอง คือคลองเปรมฯ คลองลาดพร้าว และคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งน้ำเกินวิกฤตทั้ง 3 คลอง ต้องใช้เวลาในการสูบออก เพราะช่วงที่ผ่านมาฝนตกหนักเป็น 100 มิลลิเมตรทุกวัน และฝนก็มาเร็ว แต่ถ้าสังเกตจากเมื่อคืน ถ้าเราดูตอน 22.00 น. ตกอยู่ ท่วมอยู่ประมาณ 10 สาย เช่น สุขุมวิท 71 ทองหล่อ และถนนแถวสุขุมวิทต่างๆ แต่สุขุมวิทมีบางส่วนที่เราสามารถพร่องน้ำได้เพราะระบายได้เร็ว
“เมื่อเช้าส่วนใหญ่ถนนหลักก็แห้งหมด ยกเว้นในส่วนพหลโยธินช่วงที่อยู่ติดคลอง คงต้องเร่งทั้ง 2 ฝ่าย คือในแง่ของการระบายน้ำออก และการดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
ฉะนั้น ทั้ง 4 เขต คือทางบางเขน หลักสี่ สายไหม ดอนเมือง ก็จะเร่งดูแลตั้งศูนย์ผู้อพยพและผู้ที่อยู่ริมคลองไม่สามารถอยู่ในบ้านได้เราก็มีศูนย์มาให้พักพิงก่อน และมีการจัดส่งน้ำให้ และความจริงแล้วสายไหมยังพอดีเพราะว่ายังมีถนนที่เข้าไปให้บริการบ้านที่อยู่ริมคลองสองได้ แต่ที่หนักคือดอนเมืองที่เป็นคลองเปรมฯด้านบน ซี่งทางเข้าชุมชนเป็นทางเดิน รถเข้าไม่ได้ ต้องใช้เรือเข้าไปให้บริการ เพราะฉะนั้นตอนนี้ได้ดำเนินการและประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนในแง่ของกรมชลประทานก็คุยกันตลอด เพราะว่ากรมชลประทานดูแลเรื่องน้ำภาพรวมด้านนอกในฝั่งของปทุมธานี ฝั่งแปดริ้ว ฝั่งปากน้ำด้านล่างก็มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและมีการให้ทรัพยากรกันทั้งการให้ปั๊มน้ำ” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องน้ำเหนือ หรือน้ำหนุนไม่มีปัจจัยอะไรมาก เพราะอย่างไรก็ตาม น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงกว่าระดับคลองอยู่แล้ว เราต้องกั้นและต้องดูดออกเป็นหลัก แต่อาจจะมีน้ำที่มาจากฝั่งปทุมธานีที่อยู่ที่คลองรังสิต คลองรังสิตต้องพยายามออกฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วที่สุด ขณะนี้กรมชลประทานได้ช่วยดูดน้ำออกอยู่ เพราะด้านเหนือเร็วที่สุดคือออกทางฝั่งคลองรังสิต เพราะถ้าไหลเข้ามาผ่านกรุงเทพฯแล้วก็ออกด้านใต้ทางคลองบางซื่อนั้นไกล จึงช่วยตัดน้ำด้านบน แต่ถ้าเกิดแม่น้ำที่มาจากแม่น้ำเจ้าพระยาเราต้องปิดประตูกันน้ำอยู่แล้ว ต้องดูดออกอยู่แล้ว น้ำเหนือขอแค่ไม่ให้ล้นคัน ตอนนี้ยังอยู่ในระดับที่รับมือได้ ยกเว้นจุดฟันหลอบางจุด
“สิ่งที่กังวลตอนนี้คือน้ำที่เต็มคลองที่มาจากน้ำฝนตามพื้นที่มากกว่า ไม่ได้กังวลเรื่องน้ำหนุน หรือว่าน้ำเหนือที่ลงมา เพราะว่าอย่างไรก็ตาม เราก็ต้องปิดประตูดูดออก ตอนนี้ปัญหาคือว่าคลองซึ่งระบายได้ช้า อย่างเช่น คลองประเวศออกไปทางคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต
สาเหตุที่ไม่นำน้ำไปออกคลองพระองค์เจ้าฯตามที่หลายคนแนะนำ เพราะตอนนี้คลองพระองค์เจ้าฯน้ำระดับสูงเท่ากันแล้ว ถ้าดูดออกไปตรงนั้นก็ท่วม กรมชลประทานเป็นคนตัดสินใจว่าจะดูดออกไปมากน้อยแค่ไหน ถ้าออกไปฝั่งคลองตันไปทางประตูพระโขนง ก็ใช้ระยะเส้นทางประมาณ 40 กม. ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง ตอนนี้มีติดตั้งเรือผลักดันน้ำตลอด ลงมาด้านใต้ พื้นที่ด้านใต้มีลักษณะน้ำเป็นแอ่ง ความจริงแล้วน้ำจะออกทางด้านใต้ช้า” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวว่า ปัญหาหนึ่งที่สำคัญคือ เรื่องน้ำจากฝนตกเยอะ ถ้าดูเขตบางเขนเฉลี่ยเดือนกันยายน ปกติน้ำฝนประมาณ 320 มิลลิเมตรทั้งเดือน ตอนนี้ไม่ถึงครึ่งเดือนเกินไปแล้ว จึงเป็นปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักจริงๆ เพราะว่าเป็นข้อจำกัดของข้อกายภาพ แต่เราก็พยายามลุยเต็มที่ เพิ่มปั๊มตามจุดต่างๆ เพราะฉะนั้นรามอินทราฝั่งเลขคี่ก็จะตกท่วมหนัก เพราะเป็นคันกั้นน้ำของกรุงเทพฯมาก่อน จะเห็นว่าถนนรามอินทราจะสูง เผอิญรามอินทราเลขคี่เป็นพื้นที่ต่ำ ต้องพยายามดูดออกไปคลองย่อยที่เชื่อมกับคลองลาดพร้าว พอคลองลาดพร้าวเฟ้อทำให้คลองย่อยดูดน้ำไม่ได้ และทำให้น้ำท่วมขัง ต้องเร่งระบายน้ำออก
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอย่างไรบ้าง นายชัชชาติกล่าวว่า ได้เพิ่มจากกรมชลประทาน แต่อนาคตคงต้องวางแผนให้สร้างเครื่องสูบน้ำ หรือลงทุนเรื่องประตูสูบน้ำให้มากขึ้น หลายอย่างอาจต้องเปลี่ยนแนวคิดทางอุโมงค์ใหญ่ระบายน้ำ ปรับปรุงประสิทธิภาพคลอง ปรับปรุงเครื่องปั๊มน้ำที่อยู่ประตูระบายน้ำให้เพิ่มปริมาณน้ำได้เยอะขึ้น ต้องเป็นแผนระยะยาว แต่ที่ผ่านมายุทธศาสตร์เราคือเท่าเวลาที่มีคือลอกท่อให้หมดก่อน นี่คือส่วนสำคัญ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าวันนี้ที่เราเข้ามาเราก็ลุยเรื่องลอกท่อ ขอความร่วมมือจากราชทัณฑ์มาให้ความร่วมมือกับการลอกท่อ
นายชัชชาติเผยอีกว่า ในอนาคตคงจะลงทุนในเรื่องของเครื่องสูบน้ำมากขึ้น เเละต้องเปลี่ยนแนวคิด จากคิดจะทำอุโมงค์ใหญ่ระบายน้ำให้มาเน้นเรื่องการปรับปรุงคุณภาพคลอง นี่จะเป็นแผนในระยะยาว ส่วนในตอนนี้ยุทธศาสตร์คือการลอกท่อให้หมด ปรับปรุงประสิทธิภาพการสูบน้ำ อย่างในพื้นที่ย่อยๆ ตามชุมชนก็จะเร่งนำเครื่องสูบน้ำเข้าไปให้มากขึ้น ยืนยันว่าจากเหตุการณ์น้ำท่วม ตนและคณะทำงานรับฟังความคิดเห็น คำแนะนำจากทุกคน อะไรที่ทำได้ตามคำแนะนำเราก็นำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น ยินดีรับฟังเสมอ
จากนั้น นายชัชชาติและ น.ส.พิศมัย รวมถึงคณะทำงาน ได้เดินทางไปสำรวจ Dog Park บริเวณใกล้สวนวัชราภิรมย์ โดยประชาชนสามารถนำสุนัขมาวิ่งด้วยได้พร้อมสายลากจูง ทั้งนี้ ในเรื่องของการขับถ่ายของสุนัข เจ้าหน้าที่จะมีถุงพลาสติกมอบให้เจ้าของเพื่อช่วยกันดูแลรักษาความสะอาด และนายชัชชาติยังแจ้งว่า ในวันที่ 15 กันยายนนี้ อย่าลืมไปใช้บริการ Dog Park ที่สวนเบญจกิติด้วย
ทั้งนี้ สวนวัชราภิรมย์เป็นสวนสาธารณะที่กรุงเทพมหานครได้ประสานความร่วมมือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พัฒนาพื้นที่ว่างเปล่าใต้ทางพิเศษและใต้ทางต่างระดับ พื้นที่กว่า 34 ไร่ บริเวณใต้ทางแยกต่างระดับวัชรพล โดยการก่อสร้างสวนสาธารณะอเนกประสงค์ รองรับความต้องการของประชาชนในด้านสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกายและการจัดกิจกรรมนันทนาการและกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในชุมชน นอกจากนี้ ยังได้จัดสรรพื้นที่ จำนวน 4.6 ไร่ จัดสร้างสวนสาธารณะสำหรับสุนัขแห่งแรกในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร
