ฟังจากปาก ผอ.เขตจตุจักร หลังอรรถวิชช์ โวย สภา กทม.โยกงบจัดการน้ำให้ไปเที่ยว
สืบเนื่องกรณีนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เปิดเผยว่า พบความผิดปกติในงบประมาณกรุงเทพฯ ปี 2566 ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2565 จำนวน 79,719 ล้านบาท โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อ่อนไหวน้ำท่วม พบว่าเขตจตุจักร ซึ่งมีจุดเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม 11 จุด มีโครงการโยธาทางระบายน้ำถูกตัดงบประมาณทิ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นโครงการพาคนไปเที่ยวสัมมนาสูงถึง 9,783,300 บาท (อ่านข่าว ‘อรรถวิชช์’ แฉ กทม.โยกงบเขตจตุจักรทำโครงการพาไปเที่ยวเกือบ 10 ล้าน เตรียมยื่น สตง. สอบด่วน)
ต่อมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ตอบประเด็นดังกล่าวว่า ไม่น่าเป็นเช่นนั้น โดยสั่งการให้ ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช ดูแลอยู่แล้วนั้น (อ่านข่าว ชัชชาติ ตอบข้อสงสัย โยกงบจัดการน้ำเขตจตุจักรพาคนไปเที่ยว บอก ‘ไม่น่าใช่’ ขอบคุณช่วยชี้แนะ รองฯ ทวิดา ดูอยู่)
เมื่อวันที่ 11 กันยายน เวลาประมาณ 16.15 น. ‘มติชน’ สอบถามไปยัง นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผอ.เขตจตุจักร ถึงประเด็นดังกล่าว
นายพรเลิศกล่าวว่า ทางเขตได้รับการจัดสรรงบประมาณด้านการบริหารจัดการน้ำอยู่แล้ว โดยเป็นคนละส่วนกับงบประมาณด้านพัฒนาบุคลากรซึ่งต้องดำเนินการควบคู่กัน ซึ่งงบประมาณที่ทางเขตขอไป ก็ได้รับมาตามปกติ ไม่ได้ถูกตัด อีกทั้งยังสามารถของบประมาณส่วนกลางเพิ่มเติมได้อีกด้วย
“กทม.ก็จัดสรรงบลอกท่อ งบทำฝาท่อระบายน้ำให้เราทุกปีอยู่แล้ว งบประจำปีของเขตจตุจักรปีนี้ ถ้าจำไม่ผิด ราว 2-3 ล้านบาท และได้รับงบประมาณมาตามปกติ เราขอไป เขาไม่ได้ตัดอะไรแล้ว และถ้าเขตเห็นว่าไม่พอ ก็ยังไปของบกลางเพื่อดำเนินการได้อีก อย่างตอนนี้น้ำท่วม เราจะเริ่มรู้แล้ว ว่าเส้นเลือดฝอยเราตรงไหนตีบตัน ถ้าทำได้ เขตก็รีบทำเองเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน แต่ถ้าเหลือบ่ากว่าแรง เราจะใช้งบประมาณประจำปีดำเนินการ ถ้างบประจำปี ยังไม่พอ ถ้าจำเป็นก็ขอจัดสรรงบประมาณจากส่วนกลางได้ ฉะนั้น คงพูดไม่ได้ว่ามีการเบียดบังงบไปใช้ ทำให้เกิดโน่น นี่ นั่น…ไม่น่าใช่” นายพรเลิศกล่าว
นายพรเลิศกล่าวด้วยว่า การดำเนินการเรื่องงบประมาณ ต้องกระจายออกไป ไม่ใช่จะลงไปในด้านใดด้านหนึ่ง งบพัฒนาบุคลากรรวมถึงประชาชนในเขต ต้องดำเนินการควบคู่กันไปกับงานส่วนอื่น ส่วนงบระบายน้ำ ยืนยันว่า ไม่มีการถูกตัดออกไป
“เราก็ไม่ได้ขออะไรไปมากกว่านี้ ส่วนงบการพัฒนาบุคลากรก็ต้องมีควบคู่เป็นส่วนนั้นๆไป งานสัมมนา ไม่ใช่การไปเที่ยว เป็นการอบรมเพิ่มพูนความรู้ พัฒนาประสิทธิภาพข้าราชการ” นายพรเลิศกล่าว
ส่วนกรณีที่นายอรรถวิชช์ระบุว่าเตรียมยื่นเรื่องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบนั้น นายพรเลิศกล่าวว่า อย่าลืมว่า งบประมาณ มาจากการพิจารณาของสภา กทม. และผู้บริหาร กทม. ไม่ใช่ว่าเขตเสนอไปแล้วได้รับในทันที ต้องได้รับการพิจารณาตามความเหมาะสม นอกจากนี้ การใช้งบประมาณของเขต เป็นการดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกประการ
“ถ้าเรายิ่งรู้ว่า มีผู้ตรวจสอบ ก็ยิ่งต้องดำเนินการให้เคร่งครัด ให้ได้ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลตามนโยบายของผู้ว่าฯ เกิดประโยชน์ตามงบประมาณที่เสียไป ต้องเรียนว่า งบประมาณต่างๆ ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ มีเปิดเผยอย่างโปร่งใส งบประมาณที่ผ่านออกไป ประชาชนไม่ว่าจะในหรือนอกเขตจตุจักร ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ออกมาต้องคุ้มค่า” นายพรเลิศกล่าว (ย้อนอ่าน พรเลิศ เพ็ญพาส ผอ.เขตจตุจักร “เรายืนหนึ่งเรื่องร้องเรียนเยอะสุด แต่ก็แก้ได้มากที่สุด”)