ยอมรับคำพิพากษาคดีอ่าวมาหยา ผิด แต่ไม่สามารถนำผู้อนุญาตมารับโทษตาม กม.ได้

ผู้ร่วมฟ้องคดีอ่าวมาหยา ยอมรับคำพิพากษา ชี้มีการกระทำผิดจริง แต่ไม่สามารถนำผู้ที่อนุญาตมารับโทษตาม กม.ได้

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 ศาลฎีกาเเผนกคดีสิ่งเเวดล้อมพิพากษาให้ กรมป่าไม้ ปรับปรุงแก้ไขหาดมาหยาให้กลับคืนสภาพ โดยให้แต่งตั้งคณะทำงานทําแผนการแก้ไขฟื้นฟู ให้ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ฯ-ซันต้าฯ มอบเงิน 10 ล้านใช้อนุรักษ์ตามสัญญายอมความ ยกฟ้อง รมว.เกษตร-อธ.ป่าไม้ นั้น

นายประเสริฐพงศ์ ศรนุวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จ.กระบี่ หนึ่งใน 19 โจทก์ ที่ร่วมฟ้อง กล่าวว่า ยอมรับในคำพิพากษาของศาล กรณีให้บริษัทเอกชน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแผนการฟื้นฟูอ่าวมาหยา เท่ากับว่า มีการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบริเวณอ่าวมาหยาจริง แต่เป็นที่เสียดาย ที่ไม่สามารถ นำผู้ที่อนุญาตให้มีการสร้างภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวมารับโทษตามกฎหมาย เนื่องจากมีการอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่เริ่มต้น จนทำให้ธรรมชาติและระบบนิเวศต่างๆ บริเวณอ่าวมาหยา ถูกทำลาย แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนที่จะอนุญาตกระทำการใดๆ ในพื้นที่ทางธรรมชาติ เนื่องจากมีกรณีตัวอย่าง อ่าวมาหยา มาแล้ว กว่าจะสิ้นสุดคดีต้องให้ระยะเวลา กว่า 23 ปี

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง: ศาลฎีกา ชี้ คดี ‘เดอะบีช’ ให้กรมป่าไม้ปรับปรุงหาดมาหยา บ.สร้างหนังมอบ 10 ล.ยกฟ้อง รมว.กษ.-อธ.ป่าไม้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image