กรมชลฯอธิบาย ‘ชัชชาติ’ เหตุท่วมหนักลาดกระบัง ชี้ 14 วัน ฝนกระหน่ำ 726 ล้าน ลบ.ม. สูบได้วันละ 48 ล้าน ถ้าไม่ตกเพิ่ม 5 วันกลับภาวะปกติ
เมื่อวันที่ 14 กันยายน เวลาประมาณ 10.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ลงพื้นที่เขตลาดกระบัง โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก
นายชัชชาติกล่าวว่า ลาดกระบังคือพื้นที่ซึ่งต่อสู้หนักที่สุด วันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะลงมาตรวจตนจึงมาร่วมให้ข้อมูล เผื่อได้หารือกัน ถามว่าเหตุใดลาดกระบังน้ำท่วม ต้องเรียนว่าเดือนกันยายนมีฝนตกในพื้นที่ปริมาณมาก ค่าเฉลี่ยจากข้อมูล 30 ปี มีปริมาณน้ำเฉลี่ยราว 120 มม. แต่ระหว่างวันที่ 1-14 กันยายนที่ผ่านมา ตกมาแล้วเฉลี่ยเกือบ 300 มม. ในปีนี้ กล่าวได้ว่าเป็น 2 เท่าของปกติ ทำให้ประสิทธิภาพการระบายน้ำเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ สภาพภูมิศาสตร์ถูกล้อมด้วย 3 ด้าน ตะวันออก คือแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา ลงแม่น้ำบางปะกง ด้านใต้ คือสมุทรปราการ ลงทะเล ด้านตะวันตก คือ แม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้น ทาง กทม.พยายามดึงน้ำมาออกมาพระโขนง ซึ่งทางชลประทานต้องช่วยกัน ที่ผ่านมามีการหารือกันตลอด
จากนั้น นายยงยศ เนียมทรัพย์ ผอ.สำนักชลประทานที่ 11 อธิบายแผนภูมิปริมาณน้ำฝนฝั่งตะวันออกรวมถึงกรุงเทพมหานครและจังหวัดข้างเคียง ได้แก่ สมุทรปราการ บางส่วนของฉะเชิงเทรา และจังหวัดปทุมธานี ว่าฝนที่ตกลงมาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ 14 กันยายนคิดเป็นปริมาณน้ำ 726 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ามาก เทียบกับอัตราการสูบของเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตกวันละ 48 ล้านลูกบาศก์เมตร
“อัตราการสูบเรายังน้อยกว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่ จึงต้องใช้เวลาในการระบายน้ำออก ซึ่งถ้าฝนไม่ตกเพิ่มจะใช้เวลาประมาณ 5 วันจึงจะเข้าสู่ภาวะปกติได้” นายยงยศกล่าว และว่า ย่านสำโรงก็หนัก
อ่านข่าว
- ช่อง 3 ชี้ หาก ‘กระทิง’ ผิดจริง ถึงขั้นปลดออก รอนักแสดงหนุ่มแจงข้อเท็จจริง
- จ่าคลั่ง ยิงกำลัง ร.ร. เสธ.ทบ. เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ผู้ก่อเหตุมอบตัวแล้ว
- ด่วน ศาล รธน.นัดชี้ชะตา ‘บิ๊กตู่’ วาระ 8 ปี บ่ายสาม 30 ก.ย. นี้
นายชัชชาติกล่าวว่า ตอนนี้เหลือแต่ลุ้นให้ฝนไม่ตกและเร่งระบาย ในระยะสั้นต้องลุยสูบน้ำให้เต็มที่ ช่วยเหลือประชาชน แต่ในระยะกลางและยาวคงต้องหารือแผน ซึ่งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) มีแผนปรับปรุงการระบายน้ำในภาคตะวันออกให้ดีขึ้นอยู่แล้ว โดยอาจไปทางบางปะกงหรือคลองสำโรง ส่วนการเข้ามาในกรุงเทพฯ มีอยู่แล้ว แต่คงทำอะไรมากไม่ได้แล้วเพราะพื้นที่จำกัด ถ้าสามารถแบ่งเบาไปออกทางตะวันออกให้ดีขึ้นได้ กรุงเทพฯชั้นในจะเบาลงด้วย
“นี่คงเป็นแผนในระยะกลางและระยายาวซึ่งคุย กทม.กับกรมชลประทานร่วมมือกันตลอด คุยกันทุกวันจันทร์ สำหรับแผนระยะยาวที่ต้องลงทุนเยอะ กทม.คงทำเองไม่ได้ เพราะผ่านหลายจังหวัด ต้องร่วมมือกับกรมชลประทาน และการบริหารน้ำของประเทศในภาพรวม ตอนนี้โลกร้อน ฝนมาเยอะกว่าที่คาดการณ์ คงเห็นแล้วว่าต้องเอาลงทะเลทางใต้ หรือออกทางตะวันออกไปทางแม่น้ำบางปะกงซึ่งคงต้องมีการเพิ่มกำลังสูบ จากนั้นจะทำให้ลาดกระบัง สะพานสูง มีนบุรี หนองจอก ปลอดภัยมากขึ้น” นายชัชชาติกล่าว
จากนั้น นายชัชชาติเข้าพูดคุยกับ นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม. และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย