ชัชชาติ รับเครียดเพราะเป็นห่วงประชาชน ยันไม่ทะเลาะกับใคร ให้เกียรติผู้แทนที่ประชาชนเลือก
เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 14 กันยายน ที่วัดวิบูลย์ธรรมาราม เขตหนองจอก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) พบปะประชาชนและแจกถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม (อ่านข่าว ‘บิ๊กป้อม’ มอบถุงยังชีพชาวหนองจอก ลั่นขอให้เชื่อมั่นรัฐบาล’บิ๊กตู่-ผู้ว่าฯชัชชาติ’)
นายชัชชาติกล่าวว่า การทำงานร่วมกันระหว่าง กทม.กับรัฐบาล เป็นเรื่องที่ดี เป็นมิติที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก่อน กทม.ไม่ได้ร่วมมือกับคนอื่นมาก อย่างการระบายน้ำที่ต้องระบายเข้ากรุงเทพฯตลอด ตอนนี้ระบายน้ำออกด้านนอกเพิ่มขึ้น ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมมือกัน ทั้งกรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กองทัพ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
“ทุกหน่วยงานร่วมมือเป็นเนื้อเดียวกัน ขอปุ๊บไม่เกี่ยงงอน ของมารีบติดตั้ง ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมมือกับเรา สำหรับตามหมู่บ้านหรือชุมชน ที่น้ำยังท่วมขังอยู่ จะต้องมีการปิดล้อมและนำเครื่องสูบน้ำไปช่วยสูบออก แต่ต้องให้ระดับน้ำในคลองลดลงก่อน ไม่งั้นน้ำจะวนกลับมาจุดเดิม โดยจะเริ่มทำที่ซอยรามอินทรา ฝั่งเลขคี่ที่มีปัญหา ส่วนถนนพัฒนาการยังไม่สามารถทำได้ เพราะน้ำในคลองประเวศบุรีรมย์ยังคงล้นอยู่ ซึ่ง กทม.ไม่ลืมประชาชนที่อาศัยตามชุมชนลึก ตามริมคลอง ที่ยังมีความเดือดร้อนอีกจำนวนมาก” นายชัชชาติกล่าว
เมื่อถามถึงความรู้สึกที่ได้พบพลเอกประวิตรเป็นครั้งแรกหลังจากการคุยผ่านโทรศัพท์ นายชัชชาติกล่าวว่า ท่านมีเมตตาให้ความกรุณาช่วยเหลือทุกอย่าง สั่งการมีความรวดเร็ว ทุกหน่วยงานมีการตอบสนอง ทำให้แก้ปัญหาได้รวดเร็ว พร้อมกับได้เสนอโครงการให้กับพลเอกประวิตร เนื่องจากท่านเป็นประธานกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เพื่อทำทางด่วนน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ลาดกระบังให้เร็วขึ้น ซึ่งจะสามารถทำให้การระบายน้ำมาทางเขตมีนบุรีและหนองจอกทำได้เร็วขึ้น เป็นการเสนอแผนทำเส้นเลือดใหญ่ ที่ผ่านมาการระบายน้ำทางกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกติดขัดอยู่ ดังนั้น ถ้าสามารถแก้ไขส่วนนี้ให้ดีขึ้นได้ก็สามารถแบ่งเบาภาระประชาชนได้ และจะทำให้เห็นภาพรวมกรุงเทพฯที่ดีขึ้นได้ พลเอกประวิตรไม่ได้มีการกำชับส่วนใดเป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติผู้ว่าฯกทม.ทำงาน ตอนนี้จึงต้องมุ่งเน้นไปที่เรื่องของการช่วยเหลือประชาชน ผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ เก็บผักตบชวา (อ่านข่าว ชัชชาติ คุยบิ๊กป้อม ทำ ‘ทางด่วนน้ำ’ จากลาดกระบังลงอ่าวไทย หยอด ‘เมื่อกี๊ตกหนัก พอท่านมา ฝนหายเลย’)
“เมื่อเช้าได้เจอท่าน มท.1 ก็ดีมาก แสดงว่าทำงานได้ร่วมกันหมด ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ทุกคนมาเพื่อดูแลประชาชน เราไม่เคยคิดว่าใครเป็นพรรคไหน พรรคการเมืองอะไร เพราะหน้าที่เราคือการรับใช้พี่น้องประชาชน ก็ไม่ได้ทะเลาะกับใคร หน้าที่เราต้องรวมพลัง ทั้ง ส.ก. ส.ส.ก็ไม่คิดว่าเป็นพรรคไหน ผมยังจำไม่ได้ว่าท่านอยู่พรรคไหน เพราะไม่มีความหมาย แต่ท่านคือตัวแทนประชาชน เราตัองให้เกียรติท่านเพราะประชาชนเป็นคนเลือกมา” นายชัชชาติกล่าว (อ่านข่าว ชัชชาติ คุย อนุพงษ์ ปมแก้ท่วม ยัน กทม.ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมี ‘แผนน้ำรวมของประเทศ’)
นายชัชชาติกล่าวด้วยว่า ตอนนี้มีความเครียด เพราะเป็นห่วงประชาชน แต่ไม่กดดัน เชื่อว่าทุกคนทำดีที่สุด เรามีหลักการอธิบายที่น้ำท่วมตอนนี้ เพราะน้ำมาเยอะจริงๆ เหลือค้างกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ฝนตกที่เขตลาดกระบังเดือนนี้มากกว่าปกติถึง 2 เท่า ทำให้ประสิทธิภาพคลองรับน้ำไม่ไหว วันนี้ฝนไม่ค่อยตก น้ำลดลงไป 10% จะเห็นได้ว่าถนนหลวงแพ่งน้ำเริ่มแห้งแล้ว
“ตอนนี้เครียด ไม่ใช่เพราะคนด่านะ เครียดเพราะเป็นห่วงประชาชน เป็นห่วงพี่น้องหนองจอก ลาดกระบัง ที่ยังแช่น้ำอยู่ มันทำให้เราไม่อยากอยู่ติดบ้าน ต้องพยายามออกไปดูคลองต่อ เพราะน้ำเริ่มมาแถวสวนหลวง พระโขนง ต้องไปช่วยดูว่าจะระบายยังไง กังวลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
หวังให้ประชาชนคลายความเดือดร้อนลง เพราะเราลงไปลุยน้ำทุกคืน ก็อยากจะรู้ว่าประชาชนรู้สึกอย่างไร ก็เห็นว่าเขาอยู่ลำบากจริงๆ ผมว่าหลายท่านยังยิ้มได้ ยังมีใจสู้ เราก็ต้องสู้ไปด้วยกัน เราทิ้งประชาชนไม่ได้ ถ้าเกิดจะเครียด ไม่ได้เครียดคำวิจารณ์ เครียดเรื่องประชาชนยังมีความทุกข์อยู่” นายชัชชาติกล่าว
