เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ อาคารอดุลยเดชวิกรม โรงพยาบาลศิริราช นายคณนาถ คะชะนา รองประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ฝ่ายตรวจสอบและอำนวยความเป็นธรรม) เดินทางมารอภรรยาและญาติของ พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.เทียนทะเล และเลขาธิการสหพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ ที่ผูกคอตายในบ้านพักย่านบางบอน เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อร่วมรับศพ
โดย นายคณนาถ เปิดเผยว่า ตนกับพ.ต.ท.จันทร์ รู้จักกันมาเกือบ 1 ปีแล้ว เนื่องจากสหพันธ์ปลัดอำเภอกับสหพันธ์พนักงานสอบสวน จับมือเป็นพันธมิตรกัน มีโอกาสคุยกันมาตลอดในด้านงานหรืออุดมการณ์แนวทางในการต่อสู้ ทั้งนี้พ.ต.ท.จันทร์ เป็นคนเฮฮา แต่จริงจังกับงานมาก รู้สึกเสียดายและเสียใจกับการจากไปของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ในกรณีที่มีการเผยแพร่แชตโปรแกรมไลน์ ที่คาดว่าจะเป็นของพ.ต.ท.จันทร์ ที่พิมพ์โต้ตอบกับรุ่นน้อง โดยเนื้อหาท่อนหนึ่งมีการพูดถึงคำว่า “นาย” หลังจากรุ่นน้องคนนั้นถามพ.ต.ท.จันทร์ว่าใครห้าม น่าจะหมายถึงการยื่นหนังสือคัดค้านการยกเลิกตำแหน่งพนักงานสอบสวน จากการดูรูปโปรไฟล์ของโปรแกรมไลน์ดังกล่าวแล้วเชื่อว่าจะเป็นของพ.ต.ท.จันทร์จริง ทั้งนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง ในส่วนการเสียชีวิตของพ.ต.ท.จันทร์นั้น เชื่อว่าไม่ฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน
ต่อมาเวลา 10.40 น. นางอารมย์ ชัยสวัสดิ์ อายุ 57 ปี ภรรยาและครอบครัวของ พ.ต.ท.จันทร์ เดินทางมารับศพ พ.ต.ท.จันทร์ โดยเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่นำร่างของ พ.ต.ท.จันทร์ ออกมาจากอาคารอดุลยเดชวิกรม เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหนังราชวรวิหาร ทั้งนี้ขณะนำร่าง พ.ต.ท.จันทร์ ขึ้นรถ ทางพล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.น.9 เดินทางมาร่วมรับศพ และประดับยศให้กับ พ.ต.ท.จันทร์ จากนั้นนางอารมย์ และครอบครัว เดินเข้ามาบอกลาครั้งสุดท้าย ก่อนจะเคลื่อนศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัด โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ นำเอกสารผลการตรวจพิสูจน์ศพมายืนยันกับสื่อมวลชน และเปิดเผยว่า แพทย์ชันสูตรพลิกศพ พ.ต.ท.จันทร์ ว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศจากรอยกดรัดบริเวณคอ ไม่ได้เสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย และยืนยันว่าจากการตรวจสภาพภายในและภายนอกร่างกายไม่มีรอยฟกช้ำหรือถูกทำร้ายร่างกาย รวมทั้งไม่พบสารพิษในร่างกาย ส่วนรอยแผลที่แขนทั้งสองข้างนั้น มาจากการเสียชีวิตในท่ายืนกว่า 8 ชั่วโมงและเลือดไหลลงสู่แขนและขา ทำให้แขนขาดำคล้ำและมีรอยปริของผิวหนังได้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่ริมฝีปากบวม คล้ำ เป็นปกติของคนที่ผูกคอ ลิ้นดันออกมาทำให้ริมฝีปากบวมได้ ทั้งนี้แพทย์ยืนยันว่าริมฝีปากไม่ได้ถูกของแข็งกระแทกแต่อย่างใด นอกจากนี้อวัยวะภายในและภายนอกยังอยู่ครบสมบูรณ์ แขนขาไม่หัก รวมทั้งฟันยังอยู่ครบถ้วน ไม่ได้หักตามที่มีกระแสข่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่มีการแชร์ในโซเชียลมีเดีย ที่ระบุว่า พ.ต.ท.จันทร์เสียชีวิตจากการถูกซ้อม จนมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย ใบหน้า และฟันหัก ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากสภาพศพของผู้เสียชีวิตจากการผูกคอที่มีระยะเวลานาน 8-10 ชั่วโมง จะมีรอยช้ำอยู่แล้ว เนื่องจากมีการแปรสภาพ เลือดคั่งอยู่บริเวณศีรษะและลำคอ เป็นสภาพศพที่ฆ่าตัวตายตามธรรมชาติ โดยภาพที่มีการแชร์ที่มีลักษณะว่าพ.ต.ท.จันทร์ฟันหักนั้น เป็นภาพตัดต่อ อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบลายนิ้วมือบริเวณบ้าน ตั้งแต่ทางเดินจนถึงประตูรั้วที่เป็นจุดที่พ.ต.ท.จันทร์ผูกคอ นั้น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)ยืนยันว่าไม่มีรอยนิ้วมือคนอื่น มีแต่รอยนิ้วมือของพ.ต.ท.จันทร์ เพียงคนเดียว ประกอบกับการตรวจสอบบริเวณพื้นสนามหญ้าไม่พบรอยเท้าบุคคลอื่นแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่พบโทรศัพท์มือถือของ พ.ต.ท.จันทร์ ใช่หรือไม่ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ญาติช่วยกันหาโทรศัพท์อยู่ ยอมรับว่าตนยังไม่ทราบว่าโทรศัพท์อยู่ที่ใด หากได้โทรศัพท์แล้วตำรวจจะตรวจสอบประวัติการโทรเข้าและออกว่ามีบุคคลใดติดต่อ พ.ต.ท.จันทร์บ้าง รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนและหลังเกิดเหตุว่ามีใครมาพบ พ.ต.ท.จันทร์ บ้าง จากการตรวจสอบภาพเบื้องต้นยังไม่พบบุคคลต้องสงสัย แต่ยอมรับว่าจากการสอบถามพยานแวดล้อมพบว่าช่วงค่ำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.จันทร์ ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีเขียวดำ ทะเบียน ยษจ 455 กรุงเทพมหานคร ไปจอดบริเวณหน้าปากซอยเอกชัย 109 ห่างจากตัวบ้านประมาณ 300 เมตร ขี่มาเพียงคนเดียวและลงจากรถเพียงคนเดียว ตำรวจเชื่อว่าน่าจะลงไปซื้อของ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีร้านขายของจำนวนมาก หลังจากนั้นจึงเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนจะก่อเหตุผูกคอในเวลาประมาณ 22.00 น. กระทั่งเช้าวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ทางครอบครัวมาพบศพ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า มีพยานบุคคลเห็นว่าหลังจาก พ.ต.ท.จันทร์ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดปากซอยเอกชัย 109 จากนั้นมีกลุ่มวัยรุ่น เดินเข้ามาพูดคุยกับ พ.ต.ท.จันทร์ จากนั้นพ.ต.ท.จันทร์เดินหายไปกับกลุ่มวัยรุ่น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบถามพยานบุคคลไม่พบข้อมูลว่ามีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เมื่อคืนที่ผ่านมาทางพฐ.มาเก็บลายนิ้วมือที่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวแล้ว เชื่อว่า 2-3 วันน่าจะทราบผล
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการแชร์ข้อความบทสนทนาผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ที่เชื่อว่าเป็นของ พ.ต.ท.จันทร์ แชตกับนายตำรวจรุ่นน้อง ระบุถึง “นาย” หลังจากรุ่นน้องคนดังกล่าวถามว่าใครห้าม พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลดังกล่าว แต่ยืนยันว่า จะนำเข้าที่ประชุมเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อทำคดีดังกล่าวเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ประชาชนให้ความสนใจและเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพ.ต.ท.จันทร์ ให้สังคมคลายข้อกังขาและความสงสัยให้หมดไป โดยขณะนี้ตั้งประเด็นสาเหตุการเสียชีวิตไว้หลายประเด็นและยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได
ด้าน พ.ต.อ.ยศ วิทิตปภาธำรง ผกก.สน.เทียนทะเล กล่าวว่า ตนกับพ.ต.อ.จันทร์ สนิทสนมกันพอสมควร พ.ต.ท.จันทร์เป็นคนร่าเริง ไม่เคยเล่าปัญหาส่วนตัวให้ฟัง รู้สึกเสียใจและเสียดายที่ต้องเสียนายตำรวจชั้นดีทั้งนิสัยและการทำงานไป วันนี้จะนำร่างของพ.ต.ท.จันทร์ ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหนังราชวรวิหาร บำเพ็ญกุศล 7 วัน ส่วนคืนนี้ สน.เทียนทะเลจะเป็นเจ้าภาพ และช่วงเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธี
