เตือนหัวหน้าเสม็ด ระวังมาเฟีย ผู้เสียผลประโยชน์เยอะ พื้นที่ต่อไป หลีเป๊ะ ตะรุเตา อาการหนักไม่แพ้กัน

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์เรื่องการเตรียมการจัดระเบียบพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด ว่า กรมอุทยานแห่งชาติจะทำทุกอย่างเพื่อให้เกาะเสม็ดกลับมาสวยงามน่าเที่ยว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สร้างประโยชน์ให้ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันตามหลักการ การมีอยู่ของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ กรมอุทยานฯไม่ได้โดดเดี่ยวทำฝ่ายเดียว แต่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งทางจังหวัดระยอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ทหาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งหมดได้มีการวางแผนพูดคุยกันหมดแล้ว จะดำเนินการแบบบูรณาการ คืนเกาะเสม็ดให้เป็นของทุกคน ไม่ให้ใครมาสร้างผลประโยชน์ส่วนตัวอีกต่อไปก่อนหน้านี้ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง อดีตหัวหน้าอุทยานฯเกาะเสม็ด โดยให้นายณัฐพล รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ เป็นประธานสอบ แต่ผลยังไม่ออกมา คาดว่าน่าจะออกมาเร็วๆ นี้

“ปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นในพื้นที่เกาะเสม็ดมานาน จะต้องจัดการให้แล้วเสร็จในยุคนี้ให้ได้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรี ทส.ท่านสั่งการและติดตามผลอยู่ตลอดเวลา ปัญหาที่เป็นอยู่ตั้งแต่ที่ผ่านมา หากแก้ไขในยุคนี้ไม่ได้ ก็ไม่รู้จะแก้ในยุคไหนแล้ว” นายธัญญา กล่าว

เมื่อถามว่า ในส่วนของผู้ประกอบอาชีพสุจริต เช่น คนขับเรือสปีดโบ้ต เรือกล้วย หมอนวด หรือร้านค้าต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบครั้งนี้ จะมีการดูแล เยียวยาอย่างไร นายธัญญากล่าวว่า เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง ระเบียบจำเป็นต้องจัดอยู่แล้ว แต่เรื่องของชีวิตคนเหล่านี้ก็ต้องดูแลด้วย เบื้องต้นได้สั่งการหัวหน้าอุทยานไปว่าให้ออกแบบวิธีการแก้ไขปัญหาคนเหล่านั้นมาเสนอว่าควรจะทำอย่างไร บนพื้นฐานที่ว่า ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบ ไม่ให้ใครถูกเอาเปรียบ ปฏิบัติตามกฏหมาย

“เกาะเสม็ดถือเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาอยู่อันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งเรื่องขยะ น้ำเสีย ความไม่เป็นระเบียบ อิทธิพลท้องถิ่น ฯลฯ อย่างไรก็ตาม นอกจากเกาะเสม็ดแล้ว เกาะอื่นๆ พื้นที่อุทยานแห่งชาติอื่นๆ ที่มีปัญหาทำนองเดียวกันก็มีอีกหลายแห่ง เช่น หมู่เกาะหลีเป๊ะ ตะรุเตา เกาะช้าง เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ต้องถูกดำเนินการเหมือนเกาะเสม็ดเช่นเดียวกัน” อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติกล่าว

Advertisement

ด้านนายณัฐพลกล่าวว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ดว่าการดำเนินการของกรมอุทยานฯเด็ดขาดและตึงเกินไป ตนจึงได้แจ้งให้นายประยูร พงศ์พันธ์ หัวหน้าอุทยานเกาะเสม็ดทราบ รวมทั้งให้ระวังตัวไว้ตลอดเวลา เพราะการดำเนินการอาจไปกระทบกับผู้เสียผลประโยชน์ ในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีกลุ่มธุรกิจนายทุนโทรศัพท์มาหาตนทุกวัน โดยล่าสุดมีกลุ่มผู้ประกอบการร่มบิน และผู้ประกอบการเรือสกู๊ตเตอร์โทรมาขอให้ผ่อนผันเนื่องจากลงทุนไปจำนวนมาก บางรายเป็นข้าราชการซึ่งไปกู้เงินเพื่อมาลงทุนทำธุรกิจบนเกาะและเตรียมจะลาออกจากราชการมาดูแลกิจการ แต่ตนยืนยันว่าดำเนินการไม่ได้เพราะเป็นพื้นที่อุทยานฯ ถ้าจะไปทำร่มบินหรือสกู๊ตเตอร์ก็ไปผูกแพในทะเลทำเอง และต้องออกจากพื้นที่อุทยานไป

นายณัฐพลกล่าวต่อว่า ส่วนท่าเรือขึ้นเกาะเสม็ดมีทั้งหมด 11 แห่ง ซึ่งเปิดใช้งาน 7 แห่งนั้น ได้คุยกับผู้ว่าราชการ จ.ระยองแล้วว่าจะรื้อหมดทั้ง 11 ท่า ให้เหลือเพียงท่าเรือเดียวคือท่าเรือที่มีรูปปั้นนางยักษ์ของ อบจ.ระยอง และกรมอุทยานฯจะสร้างท่าเรือขึ้นมาในลักษณะเป็นแพทุ่นที่ไม่ใช่โครงสร้างถาวร ตรงบริเวณระหว่างอ่าววงเดือน กับหาดทรายแก้ว เพื่อควบคุมการเก็บค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ก็จะทำท่าเทียบเรือแพทุ่นที่เกาะทะลุและเกาะกุฎีด้วย โดยใช้เงินรายได้จากอุทยานฯ ในการจัดสร้างการดำเนินการจัดระเบียบบนพื้นที่เกาะเสม็ด ต้องเด็ดขาดตรงไปตรงมา เพราะกลุ่มอิทธิพลฝังรากหาผลประโยชน์ในพื้นที่มานาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image