คุก 3 ปี ปรับ 101,000 บาท หมอ รพ.ตร. เมาซิ่งปอร์เช่ป้ายแดง ชนดับ 2 สาหัส 1

ศาลอาญาธนบุรี พิพากษาจำคุก “หมอ รพ.ตร.” เมาซิ่งปอร์เช่ ชนดับ 2 สาหัส 1 ราย เป็นเวลา 6 ปี ปรับ 202,000 บาท ให้การสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือคุก 3 ปี ปรับ 101,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี ลูกชายเหยื่อพ้อเงินเยียวยา ไม่ถึงครึ่งมูลค่ารถหรู

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ศาลอาญาธนบุรี ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.153/2565 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 4) โจทก์ร่วม น.ส.ผ่องเพชร สิริอิสสระนันท์ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ฟ้อง ร.ต.อ.นพ.ภาณุรักษ์ รัตนไพศร นายแพทย์ (สบ1) กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ เป็นจำเลย ในความผิดฐานขับรถขณะเมาสุรา และโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส ขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดและขับรถที่มีไว้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อมในเวลาต้องห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522

โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ โดยพฤติการณ์กล่าวหาการกระทำความผิด สรุปว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2564 จำเลยได้ขับรถปอร์เช่ ป้ายแดง เวลาหลังพระอาทิตย์ตกแล้วไปตาม ถ.ราชพฤกษ์ แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ ในขณะที่จำเลยเมาสุราโดยมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และขับรถความเร็วเกินกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่กฎหมายกำหนด แล้วได้เกิดพุ่งชนท้ายรถยนต์ฮอนด้าซีวิคได้รับความเสียหายอย่างมาก ซึ่งผู้โดยสารในรถยนต์ซีวิค 2 คน (ชาย-หญิง) ได้รับอันตรายจนถึงแก่ความตาย และหญิงที่ขับขี่รถยนต์ซีวิคคันดังกล่าวได้รับอันตรายสาหัส

ด้านนายกานต์พงศ์ สิริอิสสระนันท์ ลูกชายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า คดีนี้ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ในความผิดฐานขับรถขณะเมาสุรา และโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส เป็นเวลา 6 ปี ปรับ 202,000 บาท แต่จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 101,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี โดยส่วนตัวน่าจะยื่นอุทธรณ์คดีขอให้ศาลเพิ่มโทษจำคุกและไม่รอการลงโทษเพราะเห็นว่าฝ่ายจำเลยไม่ได้รู้ในการกระทำโดยมารับสารภาพในการสืบพยานชั้นศาล แต่ก่อนหน้านี้ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ส่วนเรื่องค่าเสียทางจำเลยวางเงินค่าสินไหมทดแทนสำหรับครอบครัวตนที่ศาลเป็นจำนวนเงิน 1.5 ล้านบาท สำหรับการเสียชีวิตของพ่อตน และ 1 ล้านบาทสำหรับผู้บาดเจ็บสาหัสซึ่งเป็นน้องสาว รวมกันราคาสองชีวิตยังไม่ถึงครึ่งของมูลค่ารถปอร์เช่ที่ผู้ก่อเหตุขับชน

Advertisement

ด้าน น.ส.ผ่องเพชร ผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า หลังได้รับอุบัติเหตุมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว ก็ยังรักษาไม่หายเป็นปกติ ทางด้านคดีรู้สึกว่าค่อยได้รับความเป็นธรรม กฎหมายบ้านเราลงโทษคดีเมาแล้วขับสถานเบาไม่เหมือนต่างประเทศ ทำให้เกิดคดีแบบนี้ซ้ำๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image