ภรรยาหนุ่มวัย วัย 44 ปี ที่ก่อเหตุใช้รางปูนใส่อาหารหมู ทุ่มใส่หนุ่มวัย 25 ปี ชาว อ.นางรอง บุรีรัมย์ จนเสียชีวิต ออกจากโรงพยาบาลมาส่งสามีฝากขัง กอดกันร่ำไห้ ไม่คิดเรื่องจะบานปลาย ภรรยายืนยันไม่เคยนอกใจ ส่วนสามีเข้าใจแล้วว่าภรรยารัก แต่สายไปหน่อย จะรอสามีจนกว่าจะพ้นโทษ
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน กรณี นายนนทกานต์ อายุ 25 ปี ชาวบุรีรัมย์ ถูกนายสายชล อายุ 44 ปี อยู่เลขที่ 12 ใช้รางปูนสำหรับใส่อาหารเลี้ยงหมู ทุ่มใส่ใบหน้าเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากความหึงหวง
ความคืบหน้าทางคดี เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหานายสายชล “ทำร้ายร่างกายจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ซึ่งต่อมาภรรยานายสายชล ได้ขอหมอโรงพยาบาลนางรอง ออกไปหาสามีที่ สภ.นางรอง
ฝ่ายภรรยา เมื่อเห็นสามีถูกใส่กุญแจมือ ได้โผเข้ากอดร่ำไห้ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันตั้งแต่อยู่กันมาไม่เคยคิดนอกใจ ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นรู้จักกันและนับถือกันเป็นพี่น้อง พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุว่า
ช่วงนั้นตนอยู่กับลูกสาวกับลูกเขย จากนั้นลูกสาวได้กลับไปกับสามี จากนั้นผู้ตายได้เดินเข้ามาหาตน กำลังจะคุยกันตามปกติธรรมดา ทันใดนั้นสามีซึ่งคาดว่าซ่อมอยู่พุ่มไม้ เดินเข้ามาทางหลัง แล้วเข้ามาทำร้ายตน จึงตะโกนบอกให้นายแบงค์ ผู้ตายว่า ”ช่วยด้วย” นายแบงค์จึงคว้ามีดพุ่งเข้ามาฟันสามีบริเวณปาก
สามียังหันมาทำร้ายตนด้วยการเตะเข้าหน้า จนตนสลบไป หลังจากนั้นมารู้ตัวอีกทีตอนอยู่โรงพยาบาล จนกระทั่งมาทราบข่าวด้วยว่า ยืนยันตนกับผู้ตายไม่เคยมีอะไรกัน คาดว่าสามีน่าจะหึงเกินเหตุ
ขณะที่ นายสายชล ผู้ต้องหา เผยว่า “ถ้าไม่มีผู้ชายไปอยู่แบบนั้น ผมไม่เคยระแวงเลย ถึงเวลานี้สบายใจขึ้นแล้ว รู้แล้วว่าภรรยายังรักตนอยู่ ไม่นอกใจอย่างที่ตนคิดมาโดยตลอด”