พสกนิกรเนืองแน่นสักการะพระบรมศพ พ่อค้าไอศกรีมน้อมนำคำสอนใช้ชีวิตเรียบง่าย-พอเพียง

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนผู้มาสักการะพระบรมศพเข้าประตูวิเศษไชยศรี ผ่านประตูพิมานไชยศรี แทนประตูมณีนพรัตน์ เนื่องจากวัดพระศรีรัตนศาสดารามปิดทำการในเวลา 16.00 น. โดยยังคงมีประชาชนเข้าแถวรอสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ อย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงเวลาค่ำ

S__4243816

นางธนวรรณ อถัยพงศ์ อายุ 52 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านในดง ต.บ้านดงใน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้นำบุคลากรและบุตรหลานของบุคลากร กว่า 12 คน เหมารถตู้เดินทางมาสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยเดินทางกันมาจากจ.เพชรบุรี ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงพระบรมมหาราชวัง เวลา 08.00 น. จากนั้นต่อแถวประมาณ 10 – 11 ชั่วโมง จึงได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ ซึ่งเมื่อก้มลงกราบเวลาทุกอย่างเหมือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยที่สะสมมาก็มลายหมดสิ้นไป ในใจคิดเพียงอย่างเดียวคืออยากจะนั่งอยู่ตรงนี้นานๆ ได้มองพระบรมโกศนานๆ เพื่อรำลึกถึงพระองค์เท่าที่พสกนิกรคนหนึ่งจะทำได้

“หากกล่าวถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่จ.เพชรบุรี เรียกว่ามีอย่างมากมาย ทั้งโครงการชั่งหัวมันอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ช่วยส่งเสริมการปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกพืช แก้ไขปัญหาคุณภาพดิน โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่แก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ และน้ำเน่าเสีย โครงการศูนย์สาธิตสหกรณ์ โครงการหุบกะพงเพื่อพัฒนาระบบสหกรณ์ ให้ชาวบ้านมีการรวมกลุ่มสร้างความเข้มแข็ง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ซึ่งดิฉันและพสนิกรชาวไทยจะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและไม่มีวันลืมเลือน” นางธนวรรณ กล่าว

Advertisement
S__4251652
คณะครูและบุคลากรโรงเรียนบ้านในดง ต.บ้านดงใน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

ด.ญ.ปณิตา ฤทธิ์อินทร์ อายุ 10 ปี กล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า แม้ว่าหนูจะเพิ่งเกิดและเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ แต่ก็รู้สึกใกล้ชิดและผูกพันกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะว่าคุณพ่อของหนูเป็นตำรวจประจำวังไกลกังวล หัวหิน และตำรวจประจำกองเกียรติยศทำหน้าที่เป่าแตร เวลาที่พระองค์เสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับยังวังไกลกังวล จึงทำให้มีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จพระองค์ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ และเมื่อโตขึ้นก็ได้มีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จพระองค์อยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้รู้สึกเกิดความผูกพันกับพระองค์ไปโดยปริยาย จนเมื่อทราบพระองค์สวรรคต ในวันที่ 13 ตุลาคม ก็รู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก พอดีวันนั้นคุณแม่ได้ไปรวมจุดเทียน เพื่อส่งเสด็จพระองค์ที่หน้าวังไกลกังวล หนูจึงไปด้วย และได้พยายามต่อเทียนขอผู้ที่มาจุดให้สว่างอยู่เสมอ คุณแม่ให้กลับก็ไม่กลับ จนถึงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 14 ตุลาคม จึงยอมกลับ โดยหนูมีเหตุผลว่า การต่อเทียนให้สว่างอยู่เสมอ เพื่อเป็นการต่อศรัทธาของประชาชนที่มาแสดงความอาลัยต่อพระองค์ไม่ให้มอดดับไปตามสายลมที่พัดมาแรง

S__4251650
ด.ญ.ปณิตา ฤทธิ์อินทร์

นายสุนันท์ ผอมทอง อายุ 52 ปี อาชีพพ่อค้าขายไอศกรีม กล่าวว่า เดินทางมากับครอบครัวกัน 3 คน โดยมาต่อแถวเข้าคิวสักการะพระบรมศพตั้งแต่เวลา 07.00 น. จนกระทั่งเวลา 14.00 น. จึงได้เข้าถวายสักการะพระบรมศพ ซึ่งก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด เพราะพระองค์ทรงงานเหน็ดเหนื่อยมามาก เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยก่อนที่ตนจะมาทำมาหากินที่กรุงเทพฯ ก็เป็นเพียงคนบ้านนอกที่อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เป็นเกษตรกร ทำไร่ทำนา ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ พอไม่มีน้ำ พระองค์ก็ทรงพระราชทานแทบทุกอย่าง ทั้งโครงการฝนหลวง รวมทั้งอ่างเก็บน้ำ และแก้มลิงมาให้แก่เกษตรกรมีน้ำสำหรับการเพาะปลูก นอกจากนี้ครอบครัวได้ประโยชน์จากโครงการในพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในการส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การทอผ้าไหมส่งศูนย์ศิลปาชีพ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระราชวงศ์อย่างหาที่สุดมิได้

“แม้ว่าตลอดช่วงชีวิตของลุง จะไม่เคยได้รับเสด็จพระองค์ แต่ส่วนตัวก็มีความรักและผูกพันกับพระองค์อย่างมาก เมื่อทราบข่าวว่า พระองค์สวรรคต ก็รู้สึกเสียใจอย่างมากเหมือนหัวใจสลาย แทบจะไม่เชื่อด้วยซ้ำว่า ข่าวที่ออกมาจะเป็นข่าวจริง ต้องใช้เวลาอยู่นานจึงจะทำใจได้ และเมื่อทำใจได้และโอกาสเหมาะสมจึงมากราบสักการะพระบรมศพ เพื่อเป็นการเข้าเฝ้าฯ พระองค์เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งก็สามารถทำได้สำเร็จแล้ว และต่อจากนี้ตั้งใจไว้ว่า ถ้าส่งลูกเรียนจบมหาวิทยาลัยในอีก 3 – 4 ปีข้าง จะกลับไปใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่ต่างจังหวัด ดำเนินชีวิตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ ปลูกพืชผักไว้กินเอง ที่เหลือก็นำไปแจกจ่าย และขายเป็นรายได้จุนเจือ ครอบครัวต่อไป” นายสุนันท์ กล่าว

Advertisement

นายสุนันท์ กล่าวว่า ในเวลา 11.00 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน ตนและครอบครัวจะนำไอศกรีมไผ่ทอง จำนวน 3 ถัง ขนาด 60 กิโลกรัม (กก.) มาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มาเข้าร่วมสักการะพระบรมศพ ที่เต็นท์ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะจากการที่ตนมาในวันนี้ รู้สึกว่าประชาชนต้องต่อคิวนาน และโดยรอบมีอากาศร้อน จึงอยากนำไอศกรีมมาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนเพื่อคลายร้อน รวมทั้งยังเป็นการตอบแทนและเป็นการทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชอันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย

สุนันท์ ผอมทอง
นายสุนันท์ ผอมทอง

S__4243819

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image