ชาว “ปะโอ” ต่อแถวรอถวายบังคมพระบรมศพ เผยชีวิตดีขึ้นเพราะพ่อหลวง-ขอบพระคุณที่ให้อยู่เมืองไทย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ท้องสนามหลวง มีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพจากทั่วสารทิศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 04.00 น. ทั้งนี้ สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูมณีนพรัตน์เวลา 08.00 น. โดยท้ายแถวของประชาชนที่เข้าคิวอยู่บนถนนราชดำเนินใน หน้าศาลฎีกา

นายที (ไม่มีนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาวเขาเผ่าปะโอ ประเทศเมียนมา กล่าวว่า ทางผู้นำหมู่บ้านได้ชักชวนมาถวายสักการะพระบรมศพ โดยมีชาวเขาเผ่าปะโอร่วมเดินทางมาทั้งสิ้น 300 คน ออกเดินทางตั้งแต่ช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา เข้ามาทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนมุ่งหน้าสู่ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร กระทั่งถึงเวลาประมาณ 05.00 น. ด้วยรถทัวร์ 3 คัน และรถตู้ 4 คัน

“พ่อเป็นคนดี เราชาวเขารู้สึกรักและเสียใจมาก ขอบคุณพระองค์ท่านที่ให้เราได้มาอยู่เมืองไทย เพราะชาวเขาเผ่าปะโอซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาช่วงจังหวัดแม่ฮ่องสอน หลายคนได้เข้ามาอาศัยและทำมาหากินในเมืองไทย จนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น” นายที กล่าวอย่างตื้นตัน

นายที ชาวปะโอ
นายที ชาวปะโอ

นายประภัสสร ไชยพิทักษ์ อายุ 55 ปี เกษตรกรชาว อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ออกเดินทางจากบ้านกับเพื่อนๆ ในชุมชน 95 คนด้วยรถบัส ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. และถึงกรุงเทพฯวันที่ 19 พ.ย. จากนั้นได้ไปศึกษาดูงานที่โครงการผันน้ำเข้าที่ส่วนพระองค์ บริเวณพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ประโยชน์กับประชาชนเรื่องการจัดการน้ำ เศรษฐกิจพอเพียง และการเกษตร เพื่อนำไปปรับใช้กับอาชีพของตน

Advertisement

 

นายประภัสสร
นายประภัสสร ไชยพิทักษ์ ชาวนครศรีธรรมราช

“วันนี้ (20 พ.ย.) มาถึงตั้งแต่ 05.00 น. แม้จะต้องรอนานแต่ก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย วันนี้จึงรู้สึกดีใจมากที่ได้มาถวายบังคมพระบรมศพ ขณะที่ส่วนตัวรู้สึกเสียใจมากกับการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะพระองค์ท่านทำเพื่อประชาชนของท่านจริงๆ ไม่เคยลืมประชาชนของท่านเลยตั้งแต่ขึ้นครองราชย์ ที่ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ทำใจว่าต้องมีวันนี้ แต่ไม่คิดว่าจะเร็วแบบนี้ ถ้าท่านได้พักผ่อนมากๆ ไม่ทรงงานหนักเหมือนที่ผ่านมา พระองค์คงมีพระชนม์ชีพอีกหลายปี”

นายประภัสสร กล่าวอีกว่า ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 1 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่พระราชทานโครงการบ้านจุฬาภรณ์ 1-3 หลังเกิดเหตุการณ์น้ำป่าและภูเขาถล่มหมู่บ้านกะทูน อ.พิปูน ในปี 2531 นอกจากนี้ในพื้นที่จ.นครศรีะรรมราชยังมีโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกหลายโครงการ ที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น จากนี้จะนำเรื่องราวการทรงงานหนักของพระองค์บอกเล่าแก่ลูกหลานต่อไป

Advertisement

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศเหนือ เยื้องกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ยังคงมีอาหาร ขนม เครื่องดื่มไว้บริการประชาชนครบ 4 มื้อดังเดิม โดยมื้อเช้าเริ่มแจกเวลา 07.00 น. ประกอบด้วยข้ามต้มซี่โครงหมูอ่อน 1500 ถ้วย กาแฟบาเรสต้า((เขาเขียนมาแบบนี้)) 600 แก้ว นมหนองโพ 2000 กล่อง มื้อกลางวันเวลา 11.00 น. ประกอบด้วยก๋วยเต๊่ยวลูกชิ้น 1000 ชาม ขนมจีนน้ำยาปลา 3000 ถ้วย ขนมไทย 300 ชุด น้ำดื่มจิตรลดา 1000 ขวด มื้อบ่ายแจกเวลา 16.00 น. ประกอบด้วยขนมไทย 1000 กล่อง ซาลาเปาหมูแดง 1000 ลูก เฉาก๊วยชากังราว 1000 ถึง น้ำสมุนไพร 500 ลิตร และมื้อเย็นเริ่มแจกเวลา 18.00 น. ประกอบด้วยผัดไทเสวย 2000 จาน ข้าวน้ำพริกหมูไข่ต้มยางมะตูม 1000 จาน และน้ำดื่มจิตรลดา

นางสำราญ รอดคุ้ม อายุ 67 ปี ชาวจังหวัดตาก อาชีพเกษตรกร กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพในวันนี้ ตนเป็น 1 ใน 2 คนของตัวแทนหมู่บ้านที่ได้ร่วมเดินทางมากับองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก

“เคยรับเสด็จพระองค์ท่านเมื่อครั้งเสด็จในพิธีเปิดเขื่อนภูมิพลเมื่อปี 2507 ไม่เพียงประชาชนในจังหวัดตากเท่านั้นที่ได้ใช้ประโยชน์จากเขื่อนภูมิพล ทั้งการใช้น้ำเพื่อชลประทาน น้ำเพื่อการเกษตรกรรม และยังมีไฟฟ้าใช้ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทั้งประเทศดีขึ้น หลังจากนั้นพระองค์ท่านก็เสด็จหลายครั้งโดยเฉพาะพื้นที่แถบอ.แม่สอด อ.แม่ระมาด” นางสำราญ กล่าว และว่า บางครั้งเราเหนื่อย ท้อ แต่คิดว่าพระองค์ท่านทรงงานหนักและทำให้ประชาชนโดยไม่เคยบ่น จึงยึดเป็นแบบอย่างของความอดทนและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

น.ส.ถนอมรัตน์ มุ่งหมาย อายุ 73 ปี อดีตข้าราชการกรมที่ดิน ชาวกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าวันนี้ตั้งใจมารับหนังสือที่ระลึกซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมนำมาแจกที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งแต่ช่วง 09.00 น. และูสังเกตการณ์ขั้นตอนการเข้าคิวเพื่อถวายสักการะพระบรมศพว่าเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้ช่วนญาติพี่น้องเดินทางมาวันหลัง

“การทรงงานของพระองค์ท่านทุกโครงการ ล้วนเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างมาก ส่วนตัวยึดถือหลักคำสอนที่ให้ใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์สุจริต ขยัน อดทน อย่างวันนี้เห็นแถวรอคิวยาวมาก นึกอยากแทรกแถวแต่ก็ไม่ทำ เพราะยึดตามคำสอนพระองค์ท่าน ส่วนตัวเคยรับเสด็จพระองค์ท่านหลายครั้ง ทุกครั้งก็นำมาซึ่งความปลื้มปีติเสมอ”

“รู้สึกเสียใจอย่างมากกับการเสด็จสวรรคตของพระองค์ คิดว่าเร็วเกินไปเพราะพระองค์ท่านเคยบอกว่าจะอยู่ถึง 120 ปี แต่ก็เข้าใจเพราะพระองค์ทรงงานหนักในถิ่นทุรกันดาร ขนาดที่ว่าข้าราชการบางคนยังทำไม่ได้ แต่พระองค์ท่านรู้หมดว่าพื้นที่ไหนเป็นอย่างไร” น.ส.ถนอมรัตน์ กล่าว และว่าจะนำเรื่องราวของพระองค์ท่าน ไปสอนลูกหลานต่อไป ให้มีความอดทน ซื่อสัตย์ ขยันหมั่นเพียร รู้จักให้โดยไม่หวังผลตอบแทน และมีความจริงใจต่อเพื่อนมนุษย์

เวลา 16.00 น. ที่ท้องสนามหลวง ยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศ เดินทางมากราบบังคมพระบรมศพ โดยท้ายแถวอยู่บริเวณสนามหลวงด้านทิศใต้ เยื้องกับศาลหลักเมือง ขณะเดียวกันยังคงมีประชาชนทะยอยเดินทางมาตลอดเวลา

 

สนามหลวง06

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image